คำถามที่พบบ่อย
SET Opportunity Day Q&A
1. อยากทราบค่าการตลาด 3Q67
โดยปกติ Margin ของ OR จะอยู่ที่ 0.70-1.20 บาท/ลิตร คาดว่าค่าการตลาด 3Q67 จะใกล้เคียงกับ 2Q67 ที่ 0.90 บาท/ลิตร
2. อยากทราบแผนเพื่อดึง Market Share กลับมา
เราได้มีการจัดทำโปรโมชั่นและแผนการตลาด เพื่อดึง Volume กลับมา
3. พรบ. ค้าน้ำมันใหม่ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อ OR อย่างไรบ้าง
ผลกระทบจาก พรบ. ค้าน้ำมันใหม่ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอความชัดเจนจากทางภาครัฐฯ ก่อน ซึ่งตลาดค้าปลีกน้ำมัน เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง รัฐฯ อาจต้องมีการใช้กองทุนน้ำมันเข้ามาช่วย
4. ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลกระทบต่อ OR อย่างไร
ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยปกติจะส่งผลให้ ธุรกิจของ OR ซึ่งมีสถานะรายรับสุทธิเป็นสกุลเงินต่างประเทศ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง แต่อย่างไรก็ตามก็ทำให้ต้นทุนการซื้อน้ำมันหน้าโรงกลั่นในสูตรราคาก็จะถูกลง เช่นกัน
5. ขอภาพ Outlook ของแต่ละธุรกิจ ในช่วงครึ่งปีหลัง
Mobility – คาดว่าปริมาณการขายจะอ่อนตัวลงตาม Seasonal ในช่วงฤดูฝน สำหรับ 3Q67 และปริมาณขายจะกลับมาเพิ่มขึ้นใน 4Q67 แต่ภาพรวมทั้งปีก็น่าจะมีปริมาณขายที่อ่อนตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่กำไรขั้นต้นทั้งปี 2567 น่าจะรักษาระดับได้ที่ 0.90-1.00 บาท/ลิตร Lifestyle – คาดว่า EBITDA Margin จะทรงตัวได้ที่ระดับ 27.0-28.0% แต่ปริมาณการขายลดลงเนื่องจากเป็น Low Season สำหรับ 3Q67 ภาพทั้งปีปริมาณขายน่าจะสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว จากจำนวน Cup sold ของ Café amazon ที่ทำ new high ในเกือบทุกไตรมาสในปีนี้ Global – คาดว่าจะเติบโตได้ โดยหลักมาจากประเทศกัมพูชา และฟิลิปปินส์ ทั้งปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรที่ดีขึ้นด้วย
6. อยากทราบแผนการขยายสาขาในปีนี้
OR ตั้งเป้าขยายสาขา PTT Station ที่ 100 สาขา Cafe Amazon ที่ 300 สาขา PTT Station ในต่างประเทศรวมที่ 20 สาขา และ EV Station เพิ่มขึ้น 550 Location
1. อยากทราบงบการลงทุนปี 2567 เป็นเท่าไร และมีการวางแผนในการใช้อย่างไรบ้าง
งบลงทุนอยู่ที่ประมาณ 23,100 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น Mobility 8,800 ล้านบาท, Lifestyle 10,100 ล้านบาท, Global 2,100 ล้านบาท และ Innovation & New Business 2,100 ล้านบาท
2. อยากทราบแนวโน้มผลประกอบการ 2Q67 เทียบ QoQ และ YoY เป็นอย่างไร
แนวโน้มผลประกอบการ 2Q67 เติบโตต่อเนื่อง สอดคล้องกับราคาน้ำมัน และ GDP ของประเทศ โดยกรอบของกำไรขั้นต้นต่อลิตรยังอยู่ในช่วง 0.70 -1.20 บาท และธุรกิจ Lifestyle จะยังคงรักษา EBITDA Margin ได้ที่ระดับ 27.0% และ Cup Sold ของ Amazon ยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง
3. อยากทราบเป้ารายได้ปี 2567 เติบโตเท่าไร
Portfolio OR รายได้หลักกว่า 90%มาจากธุรกิจ Mobility ดังนั้นเป้าหมายรายได้จึงจะเติบโตสอดคล้องกับราคาน้ำมัน และปริมาณขายน้ำมันที่เติบโตตาม GDP ของไทย
4. มองแนวโน้มราคาน้ำมันปี 2567 ที่เท่าไร
แนวโน้มราคาน้ำมันปี 2567 มีความผันผวนในกรอบแคบ มองราคาน้ำมัน จะอยู่ในช่วง 80-85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
5. แผนการขยายสาขาในปี 2567 จะขยายกี่สาขา
PTT Station ตั้งเป้าขยายที่ 100 สถานี ส่วน Café Amazon ตั้งเป้าขยายสุทธิที่ 300 สาขา ส่วนการขยายสาขาในต่างประเทศจะยังชะลอตัว เพื่อประเมินเศรษฐกิจในแต่ละต่างประเทศอย่างใกล้ชิด ดังนั้นการขยายเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
6. การขยายธุรกิจสุขภาพและความงาม ตั้งเป้าไว้อย่างไร
ในช่วงแรกจะเป็นช่วงของการทดลองตลาด โดยจะเปิดสาขาแรกในชานเมืองกรุงเทพ ช่วง 3Q/67 และจะมีการขยายอีก 2-3 สาขาภายในปี 2567 และ 10 สาขา ภายในปี 2568
7. มีโอกาสจะเห็นการ M&A เพิ่มเติมอีกหรือไม่ ในปีนี้ ถ้ามี เป็นธุรกิจประเภทใด
เรามีงบลงทุนสำหรับ M&A ทุกปีอยู่แล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงของการเจรจา ทำให้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ หากมีความชัดเจน จะแจ้งให้ทราบต่อไป
8. ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อใน 2Q/67เป็นอย่างไร และทิศทางของ 2Q/67 เป็นอย่างไร
ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีการเติบโตแบบชะลอตัว จากตัวเลขที่สภาพัฒน์ ฯประกาศออกมาสำหรับไตรมาสที่ 1/2567 อยู่ที่ 1.5% จากอานิสงค์ของภาคท่องเที่ยว และการใช้จ่ายของภาคเอกชน อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อในไทยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นคิดว่าไม่มีผลต่อการกำลังซื้อของคนไทยมากนัก เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังเมื่อได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐจะทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจไทย จะดีขึ้น
9. การเติบโตของ Cafe Amazon ในปี 2567 เป็นอย่างไร
ยังคงขยายสาขาต่อเนื่องโดยเน้นใน location ที่เหมาะสมและแข่งขันได้ อย่างไรก็ตามปัจจุบัน OR ไม่ได้มุ่งเน้นที่การขยายสาขาอย่างเดียว แต่จะเน้นที่การเพิ่ม Ticket Size มากขึ้น จากการเพิ่ม Product ในร้าน เช่น เบเกอรี่ Home use product, Merchandise รวมทั้ง Product จากแบรนด์โอ้กะจู๋ เพื่อรักษาระดับ EBITDA Margin
10. การลงทุนธุรกิจ Virtual Bank มีแผนอย่างไร
OR เปิดกว้างในเรื่องของการลงทุน โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่มีความเป็นไปได้ในการสร้างผลกำไรที่เหมาะสม และสอดคล้องกับกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจของ OR ซึ่งสำหรับ Virtual bank คงต้องรอหลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย พิจารณาออก License แก่ผู้ขอใบอนุญาต ก่อน
11. CVS ในประเทศกัมพูชา ดำเนินการภายใต้แบรนด์อะไร
ปัจจุบันยังมีการดำเนินการภายใต้แบรนด์ Jiffy
1. อยากทราบงบการลงทุนปี 2567 เป็นเท่าไหร่ และมีการวางแผนในการใช้อย่างไรบ้าง
งบลงทุนอยู่ที่ประมาณ 23,100 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น Mobility 8,800 ล้านบาท, Lifestyle 10,100 ล้านบาท, Global 2,100 ล้านบาท และ Innovation & New Business 2,100 ล้านบาท
2. อยากทราบแนวโน้มผลประกอบการในปี 2567 เทียบกับ ปี 2566
ถ้าพิจารณาจากการคาดการณ์ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคแล้ว คาดว่าปี 2567 OR ยังมีโอกาสเติบโตในทุก Business segment ทั้งโอกาสการเติบโตของน้ำมันอากาศยาน จากการเติบโตของภาคท่องเที่ยว ซึ่งยังส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ทำให้ Lifestyle business เติบโตด้วย อัตรากำไรขั้นต่อลิตรของการขายน้ำมันก็ยังอยู่ในกรอบประมาณ 1บาท +/-
3. อยากทราบต้นทุนทางการเงินว่าปัจจุบันอยู่ที่เท่าไหร่
ต้นทุนปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 3.3% ซึ่งคาดว่าแนวโน้มอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และมองว่าไม่มีผลกระทบกับ OR
4. OR แจ้งว่าเป็น Net USD Receiver อยากทราบว่าการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลต่อรายได้ของ OR ประมาณเท่าไหร่
ขึ้นอยู่กับทิศทางของอัตราแลกเปลี่ยน โดยหากค่าเงินบาทแข็งค่าปกติจะมี FX loss และในทางกลับกันหากเป็นช่วงค่าเงินบาทอ่อนค่าจะมี FX gain โดยสัดส่วนรายได้ที่เป็น USD มีไม่มากเมื่อเทียบกับส่วนใหญ่ที่เป็นสกุลเงินบาทเป็นหลัก
5. อยากทราบว่าปีนี้ OR จะมีการลงทุนในธุรกิจอะไรบ้าง และคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงใด
OR มีแผนลงทุนในธุรกิจ Health and Beauty และ F&B ซึ่งคาดว่าน่าจะเห็นภายในปีนี้ หากมีความชัดเจนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
6. ปริมาณขายน้ำมันใน 2567 มีแนวโน้มเติบโตจากปี 2566 หรือไม่ มีปัจจัยใดสนับสนุนบ้าง
คาดว่าเติบโตตาม GDP Growth ที่ประมาณ 3% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว คาดว่าปริมาณจำหน่ายนำมันอากาศยาน จะกลับมาอยู่ในใกล้ระดับเดิมก่อน Covid-19
7. ทิศทางค่าการตลาดและปริมาณขายน้ำมันในงวด 1Q67 เป็นอย่างไร
อาจจะยังเร็วไปที่จะคาดการณ์ออกมาเป็นตัวเลขในเรื่องของปริมาณขาย โดยกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรคาดว่ายังอยู่ในช่วงที่เหมาะสมคือ 0.7-1.2 บาทต่อลิตร
8. อยากทราบผลกระทบของการเปลี่ยนมาใช้ Euro V ต่อค่าการตลาด
ปกติกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตร ของ OR เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพตลาดโดยอยู่ในกรอบแคบๆ การเปลี่ยน Spec น้ำมันมาเป็น Euro V ก็ไม่ได้ต่างกับ Euro IV OR ก็ยังใช้ Business model ธุรกิจเป็นแบบ cost plus
9. อยากทราบผลกระทบจากกระแสเติมไม่เต็มถัง ส่งผลต่อยอดขายน้ำมันในงวด 1Q67 อย่างไร และบริษัทแก้ไขปัญหาอย่างไร
ในงวด 1Q67 คาดว่าผลกระทบไม่มากนัก โดย OR มีข้อกำหนดให้สถานีบริการทุกสถานี ทำการทดสอบการตวงลิตรน้ำมันทุกหัวจ่ายเป็นประจำทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง และให้สถานีส่งผลการทดสอบตวงลิตรมายัง OR และ ส่งไปยัง “กรมชั่งตวงวัด” โดยจะมีการตรวจสอบผลการตวงลิตรให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกระทรวงพาณิชย์
10. การขยาย EV Station Pluz ในรูปแบบไม่มีสถานีบริการน้ำมันมีความคืบหน้าอย่างไร จะเห็นความชัดเจนการขยายสาขาดังกล่าวเมื่อไหร่และตั้งเป้าขยายกี่สาขา
เพื่อรองรับความต้องการใช้งานของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า OR ได้มีแผนจัดตั้ง EV Station PluZ Hub ซึ่งจะเป็นสถานีชาร์จที่มีหัวชาร์จ DC ที่ใช้ระยะเวลาชาร์จน้อย อย่างต่ำ 8 หัวชาร์จ/แห่ง ตั้งเป้าติดตั้งในจังหวัดกำแพงเพชร สระบุรี นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ และเส้นทางหลัก รวมแล้วประมาณ 8 แห่ง โดยคาดว่าจะสามารถติดตั้ง EV Station PluZ Hub แห่งแรกได้ในไตรมาส 3 ปี 2567 นี้
11. อยากทราบ Market share, Gross Profit Margin และ Net Profit Margin ของ Fit Auto อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่
ไม่มีนโยบายในการเปิดเผยข้อมูลรายแบรนด์
12. การขยายสาขาของร้านสะดวกซัก Otteri เติบโตขึ้นกี่ % ในปี 2566 และปี 2567 มีแผนจะขยายอีกกี่สาขา
ปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งหมด 1,104 สาขา เติบโตขึ้น 263 สาขาจากปี 2565 263 สาขา (+31%) และมีแผนขยายสาขาในปี 2567 ประมาณ 340 สาขา (ใน OR Platform 40 สาขา, นอก OR Platform 300 สาขา) รวมสะสมประมาณ 1,600 สาขา
13. OR มีการคัดเลือกผู้เช่าพื้นที่อย่างไร
พิจารณาตามความเหมาะสมของพื้นที่ทำเลนั้น ๆ
14. OR มีกลยุทธ์ในการเลือกร้านสะดวกซื้อว่าจะเป็น Jiffy หรือ Seven Eleven ขึ้นอยู่กับอะไร และอยากทราบจำนวนสาขาของแต่ละแบรนด์
พิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ และเป็นไปตามสัญญากับ CPALL ปัจจุบัน ณ สิ้นปี 2566 มีร้านค้าสะดวกซื้อ 2,317 สาขาในไทย 2,227 สาขา ในต่างประเทศ 90 สาขา
15. อยากทราบความคืบหน้าการลงทุนคลัง LPG ในประเทศกัมพูชา
อยู่ในระหว่างการดำเนินการหากมีความก้าวหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
16. ปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่ลดลงในประเทศฟิลิปปินส์และลาวเป็นเพราะสาเหตุใด และการลดลงเกิดขึ้นกับทั้งอุตสาหกรรมหรือเฉพาะที่ตัวบริษัท
ปริมาณจำหน่ายที่ลดลง QoQ ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยหลักมาจากน้ำมันอากาศยานที่จำหน่ายให้กับสายการบินบางแห่งลดลง รวมทั้งการแข่งขันในตลาดที่สูงส่งผลให้ดีเซลจำหน่ายให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมลดลงเช่นกัน สวนทางกับในขณะที่สปป. ลาว QoQ ที่ปริมาณจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากดีเซลจำหน่ายกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม
1. เศรษฐกิจในไตรมาส 3 ขยายตัวค่อนข้างต่ำ อยากทราบว่ามีกระทบต่อผลการดำเนินงานบริษัทอย่างไรบ้าง และการเติบโตในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ แต่ละกลุ่มธุรกิจมีการเติบโตจากปัจจัยอะไรบ้าง
ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 จะปรับตัวลดลง แต่สาเหตุสำคัญมาจากการอ่อนตัวลงของภาคการส่งออก และการใช้จ่ายของภาครัฐ แต่ภาคการบริโภคในประเทศยังคงเติบโต อย่างไรก็ตามธุรกิจ Mobility มียอดขายลดลงตามปัจจัยฤดูกาล แต่กำไรยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม สำหรับธุรกิจ Lifestyle ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นมองว่าการเติบโตของธุรกิจของ OR ในปีนี้ ยังคงเป็นไปตามแผน โดยธุรกิจ Mobility ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่มีอัตรากำไรที่แข็งแกร่ง และอยู่ในกรอบที่เหมาะสม และคาดว่าน้ำมันอากาศยานน่าจะเติบโตขึ้นในไตรมาส 4 สำหรับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ยังสามารถรักษาระดับ EBITDA Margin อย่างน้อย 25% ไว้ได้
2. บริษัทมองทิศทางผลการดำเนินงานในปี 2567เป็นอย่างไรท่ามกลางความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวค่อนข้างต่ำ และมองการเติบโตทางธุรกิจในปีหน้าเป็นอย่างไร
ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกและประเทศในปี 2567 จะเติบโตไม่เป็นไปตามคาด แต่ด้วยลักษณะของธุรกิจ OR เป็นธุรกิจค้าปลีก ดังนั้นมองว่าปีหน้ายังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ที่ยังคงมุ่งเน้นการขยายสาขา และให้ความสำคัญในการบริหารการลดต้นทุน รวมทั้งการจัดหา Supply ในส่วนของเมล็ดกาแฟ โดย OR ได้เข้าไปร่วมมือกับทางเกษตรกรในการปลูกเมล็ดกาแฟ ส่งผลทำให้เกษตรกรมีรายได้และต้นทุนของบริษัทลดลง รวมทั้งธุรกิจที่ได้ร่วมลงทุนกับ Partner ก็ทยอยฟื้นตัว สำหรับกลุ่มธุรกิจ Mobility ก็ยังเป็น Core business ให้ผลประกอบการที่ดีอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง ถือเป็น Cash cow ของ OR โดยในปีหน้า OR มุ่งเน้นในการทำกำไรเพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง เช่น ผลิตภัณฑ์น้ำมัน Premium ยางมะตอย และ น้ำมันอากาศยาน เป็นต้น
3. บริษัทมองแนวโน้มทิศทางราคาน้ำมันในปีหน้าเป็นอย่างไร และจะกระทบต้นทุนและปริมาณยอดขายน้ำมันอย่างไรบ้าง
คาดว่าราคาน้ำมันเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ประมาณ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่เนื่องด้วยธุรกิจของ OR เป็นการซื้อมาและจำหน่ายไป ทำให้ Model ของธุรกิจเป็นในเชิง Cost Plus ดังนั้นคาดว่ากำไรของ OR จะยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ รวมทั้ง OR มีธุรกิจที่ไปเติบโตในต่างประเทศทั้งอีกเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะในประเทศกัมพูชา
4. แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/66 เป็นอย่างไร และบริษัทมีแผนจะเปิด PTT Station ร้าน Cafe amazon และ EV Station PluZ จำนวนเท่าไหร่
ในด้านปริมาณการขายคาดว่าปรับดีขึ้นกว่าไตรมาส 3/66 เนื่องจากเป็นช่วง High Season และมีวันหยุดเทศกาล ส่งผลทำให้มีการเดินทางและการใช้จ่ายที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามผลประกอบการโดยรวมในไตรมาส 4/66 อาจจะอ่อนตัวลงเล็กน้อย เมื่อกับเทียบไตรมาส 3/66 ที่เป็นฐานที่ค่อนข้างสูง และในงวดไตรมาส 4/66 มักจะมีค่าใช้ดำเนินงานที่สูงกว่าไตรมาสอื่นๆ อย่างไรก็ตามผลประกอบการทั้งปี 2566 คาดว่าจะดีขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สำหรับจำนวน PTT Station สิ้นปีนี้คาดว่าเปิดได้เพิ่มทั้งหมด 90 สถานี ร้าน Café Amazon จำนวน 340 ร้าน และ EV Station PluZ 500 แห่ง
5. รายได้ปี 2566 ต่ำกว่าปีก่อนเนื่องจากปัจจัยอะไร
ภาพรวมรายได้ของบริษัทส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจ Mobility ซึ่งมีเรื่องของปัจจัยด้านราคาน้ำมันเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยระดับราคาน้ำมันโดยเฉลี่ยปีนี้ต่ำกว่าปีที่แล้ว จึงส่งผลทำให้ภาพรวมรายได้ปรับตัวลดลง
1. ทิศทางผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มจะดีกว่าครึ่งปีแรกหรือไม่ และมาจากปัจจัยอะไร
คาดว่าจากการที่เศรษฐกิจและภาคท่องเที่ยวฟื้นตัว จะเป็นปัจจัยบวกให้กับ OR ในช่วงครึ่งปีหลัง
2. ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Mobility และ Lifestyle เท่าไหร่ และคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าไหร่ในปีนี้
กว่า 90% ของรายได้จะมาจากกลุ่ม Mobility แต่หากมองในด้าน EBITDA กลุ่ม Lifestyle จะมีสัดส่วนถึง 25%
3. ปัจจุบัน OR มีDeal M&A ที่อยู่ระหว่างเจรจากี่ราย เป็นธุรกิจอะไรบ้าง และคาดว่าในช่วงหลังของปีนี้จะเห็นความชัดเจนกี่ดีล มีมูลค่าประมาณเท่าไหร่
Deal ใน Pipeline ของ OR มีค่อนข้างมาก ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ โดยจะเน้นในกลุ่มของทั้ง F&B ที่มีมาต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และกลุ่ม Health & Wellness รวมไปถึงกลุ่ม Beauty ซึ่ง OR ต้องพิจารณาและหาธุรกิจที่เหมาะสม และต้องรอความชัดเจนจึงจะสามารถเปิดเผยได้
4. อยากทราบรายละเอียดของ xplORe Application ที่เพิ่งเปิดตัวไป และทาง OR จะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง
OR มี Physical Platform ที่แข็งแกร่ง ทั้ง PTT Station และ Café Amazon รวมถึงร้านค้า F&B อื่นๆ โดย xplORe เป็น Online Platform ที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้จ่าย มีการสะสมแต้ม การใช้แต้ม ระหว่างสินค้าและบริการใน OR ขยายไปยัง Partner อื่น ๆ ที่ OR เข้าไปลงทุน รวมไปถึง Brand อื่นๆ อีกมากมายที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ xplORe ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงจาก Offline to Online และ Online to Offline นอกจากนี้ Application ต่างๆ ที่ OR มีอยู่แล้ว เช่น Café Amazon Blue Card และ Blue Connect ก็ยังถูกรวบรวมมาไว้ที่ xplORe แหล่งเดียว ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์การใช้ชีวิตในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น
5. ไม่ทราบว่าผลขาดทุนจากการลงทุนใน Flash เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่
OR รับรู้มูลค่ายุติธรรมของ Flash ตามมาตรฐานทางบัญชีตามวิธี Mark to market ซึ่งจะเข้ามาในบรรทัด other comprehensive income ซึ่งอยู่ภายใต้ ส่วนของทุน (Equity) หลังจากที่ OR เข้าลงทุนไป Flash ก็ได้มีการระดมทุนเพิ่มขึ้นใน Series ถัด ๆ ไป ซึ่ง OR ไม่ได้ลงทุนเพิ่ม
6. การขยายสาขา PTT Station, EV Station PluZ และ Café Amazon ในปีนี้จะมีจำนวนเท่าไหร่ และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีทั้งหมดกี่สาขา
- การขยายสถานีบริการ PTT Station จะอยู่ที่ปีละประมาณ 100 แห่ง
- EV Station PluZ ในปัจจุบัน OR ได้ขยาย ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศไทยแล้ว โดยเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 800 แห่ง
- สำหรับ Café Amazon จะเปิดประมาณปีละ 400 สาขา โดย OR จะอาจจะไม่ได้เน้นการขยายสาขาเป็นหลัก แต่จะมุ่งเน้นการรักษาระดับ Margin และการเพิ่มขนาดของ Ticket Size ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มระดับของ EBITDA ของกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ให้เติบโตมากยิ่งขึ้น
7. อยากทราบแผนการผลักดันบริษัทลูกเข้าตลาดหลักทรัพย์
สำหรับในบริษัทที่ OR เข้าไปร่วมลงทุน ก็จะมี 1-2 บริษัทที่มีแผนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ (โอ้กะจู๋) ก็อยู่ในระหว่างการจัดเตรียมแผน IPO และยังมีบริษัทที่มี Potential อีกหลายบริษัท ซึ่งต้องพิจารณาถึงความชัดเจน และผลการดำเนินงาน
8. อยากทราบความคืบหน้าของธุรกิจเติมน้ำมันเครื่องบินที่กัมพูชา
ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างสนามบินที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือน มีนาคม 2568
1. OR มองภาพผลการดำเนินงานทั้งปีมีการเติบโตกว่าปีก่อนหรือไม่ มีปัจจัยอะไรสนับสนุน ในช่วงครึ่งปีหลังมีความกังวลในเรื่องใดบ้าง และคาดการณ์ของแต่ละกลุ่มธุรกิจในครึ่งปีหลังเป็นอย่างไร
สำหรับปีนี้ ในมุมของ OR คาดว่ามีการเติบโตขึ้นจากปีก่อน สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังทาง OR ได้ติดตามเฝ้าดูสถานกาณ์ความผันผวนของราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีผลกระทบต่อธุรกิจ OR นอกจากนี้ยังติดตามในเรื่องของ Recession ใน US และ EU รวมถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครน อยู่ตลอด สำหรับปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อ OR คือการที่เปิดประเทศส่งผลทำให้มีการบริโภคและ การเดินทางมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของน้ำมันอากาศยาน ภาพรวมคาดการณ์ว่าในครึ่งปีหลังทุกกลุ่มธุรกิจจะยังมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
2. ค่าแรงที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น OR ได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่ และมีกลยุทธ์ในการจัดการอย่างไรบ้าง
การขึ้นค่าแรงนั้นอาจจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก ซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ เนื่องจากในภาพรวมของ OR ไม่ได้จ้างงาน Base on ค่าแรงขั้นต่ำ และ OR รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเฉพาะในส่วนของสถานีบริการและร้านค้าที่เป็น COCO (Company owned Company Operated) ซึ่งมีสัดส่วนเพียงประมาณ 20%
3. ค่าการตลาดเฉลี่ยใน 2Q66 เป็นเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับ 1Q66
โดยปกติแล้วแนวโน้มของค่าการตลาดจะอยู่ในระดับ 0.7-1.2 บาทต่อลิตร แต่หากมองเทียบกับไตรมาสที่ 1 ทาง OR คาดว่าจะสามารถรักษาค่าการตลาดได้อยู่ที่ระดับ 1 บาทต่อลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันเริ่มปรับลดลงส่งผลให้ความกดดันด้านราคาน้ำมันลดลง
4. ปริมาณขายน้ำมันใน 2Q66 ยังเติบโตต่อเนื่องได้หรือไม่ มีปัจจัยใดสนับสนุน
โดยปกติแล้วแนวโน้มการเติบโตของปริมาณจำหน่ายน้ำมันจะเติบโตตาม GDP ของประเทศ ซึ่งสภาพัฒน์ฯ คาดการณ์ GDP Growth ของปีนี้อยู่ที่ 2.7%-3.7% โดย คาดว่าทั้งปีโดยรวมแล้วจะเติบโตได้ดีกว่า GDP growth โดยหลักมาจากปริมาณจำหน่ายน้ำมันอากาศยาน จากการเดินทางใน และต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ปริมาณขายใน 2Q66 น่าจะใกล้เคียงกับ 1Q66
5. Stock gain/loss ใน 2Q66 มีแนวโน้มเป็นอย่างไร
หากราคาน้ำมันไม่ผันผวนมาก จะสามารถบริหารจัดการได้ เหมือนกับในไตรมาสที่ 1 ที่ Stock gain/loss มีจำนวนไม่มาก ทาง OR คาดว่าจะรักษาระดับ Stock gain/loss ได้ใกล้เคียงเดิมในไตรมาส 2 แต่อย่างไรก็ตามธุรกิจของ OR มีความจำเป็นต้องเก็บ Stock น้ำมันไว้ตาม Legal Reserve ส่งผลทำให้การมี Stock Gain/loss นั้นเป็นเรื่องปกติของธุรกิจ
6. แผนการขยายสาขา PTT Station ในช่วงที่เหลือของปีเป็นอย่างไร
ในปี 2566 OR มีแผนขยาย PTT Station ในประเทศเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 100 แห่ง ซึ่งในไตรมาสแรก OR ขยายไปแล้วทั้งสิ้น 7 แห่ง อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน OR ไม่ได้มุ่งเน้นการขยายจำนวนสถานีบริการมากนัก แต่จะเน้นในส่วนของการสร้างกำไรเพิ่มขึ้นในสถานีแต่ละแห่ง เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด
7. ความคืบหน้าในการลงทุนใน Flash express และ Lineman เป็นอย่างไร
OR ไม่ได้ลงทุนเพิ่มเติมใน Flash express ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นลดลง และยังติดตามผลประกอบการอย่างใกล้ชิด ส่วน Lineman วัตถุประสงค์เพื่อ เป็น Financial Investor โดยคาดว่าจะมี return จากการ IPO ในอนาคต
8. มีข่าวลือว่า OR จะซื้อ PTG จริงหรือไม่
ไม่มีอยู่ในแผนงาน เนื่องจากมองว่าสัดส่วน Market share ในปัจจุบันของ OR มีความเหมาะสมแล้ว ยังไม่มีความจำเป็นในการซื้อกิจการ
1. ในช่วงที่ผ่านมา OR ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนที่สูงขึ้นมาก OR มีแนวทางในการจัดการแบบใด
- ในช่วงที่ผ่านมา OR มียอดเงินค้างรับสะสมจากกองทุนน้ำมันค่อนข้างสูง บริษัทได้มีแผนและบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด โดย OR ได้จัดหาวงเงินกู้กับธนาคารพาณิชย์เพื่อใช้เสริมสภาพคล่องเพิ่มเติม
- อีกทั้งเมื่อ 14 ก.พ. 2566 Tris ได้ประกาศการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ของ OR ที่ระดับ AA+ พร้อมแนวโน้มอันดับที่คงที่ (stable) เพื่อในอนาคตหากมีความจำเป็น OR จะมีทางเลือกในการจัดหาแหล่งเงินกู้ อื่นเพิ่มเติมซึ่งจะส่งผลให้ OR มีความสามารถในการบริหารต้นทุนและเงื่อนไขทางการเงินได้อย่างเหมาะสม
2. OR มีแนวทางการบริหารจำนวนลูกหนี้การค้า และลูกหนี้จากภาครัฐที่สูงขึ้นอย่างไร
- จากสิ้นปี 2564 มียอดเงินค้างรับสะสม จำนวน 7,993 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นสูงสุด ณ เดือนกันยายน 2565 จำนวนประมาณ 38,000 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 OR ได้รับเงินคืนจากกองทุนน้ำมันฯ จำนวนมากเกือบ 16,000 ล้านบาท ทำให้ ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2566 มียอดเงินค้างรับสะสมลดลงเหลือจำนวนประมาณ 21,000 ล้านบาท
- สถานการณ์ในปี 2566 OR คาดว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะทยอยชำระเงินคืน OR เพิ่มขึ้น ตลอดทั้งปี และคาดว่ายอดค้างรับของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะกลับคืนสู่สภาวะปกติภายในปี 2567
3. ในปีนี้ OR ยังต้องมีการใช้เงินทุนหมุนเวียนเป็นอย่างมาก ในส่วนของ INVENTORY อีกหรือไม่
ยอดเงินทุนหมุนเวียนที่ใช้ในส่วนของ Inventory เป็นไปตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตามการคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 2566 จะอยู่ในช่วงราคาที่ต่ำกว่าในปี 2565 OR จึงมองว่าการใช้เงินในส่วนนี้น่าจะลดลง
4. สถานการณ์ในปัจจุบัน OR ยังจำเป็นต้องเพิ่มหนี้สินที่มีดอกเบี้ยหรือไม่
สถานการณ์ปัจจุบันยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องก่อภาระหนี้เพิ่ม
5. CAPEX ปี 2566 เป็นจำนวนเท่าไร
Capex ในปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 31,200 ล้านบาท
6. บริษัทค้าปลีกน้ำมันต่างปรับสัดส่วน ลูกหนี้ และเจ้าหนี้การค้า เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ไม่ทราบว่าผู้บริหาร OR มีแนวทางอย่างไรในปี 2566 นี้
OR มีการบริหารจัดการลูกหนี้ และเจ้าหนี้การค้า เพื่อไม่ให้กระทบสภาพคล่องของ OR อย่างเหมาะสมอยู่แล้ว
7. ในช่วงที่ผ่านมานักลงทุน และผู้ถือหุ้น ต่างมอง OR ในเชิงถดถอย ผู้บริหารคิดว่า อะไรคือจุดเปลี่ยนสำคัญในปีนี้
นักลงทุนมีมุมมองที่หลากหลาย อย่างไรก็ตามในปีนี้ OR มีแผนในการเติบโตอย่างยั่งยืน และมองว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 4Q65 ที่ผลการดำเนินงานออกมาขาดทุน และคาดว่าในปี 2566 OR จะสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้
8. แนวโน้มปริมาณขายน้ำมันใน 1Q66 มีการเติบโตหรือไม่ และผลการดำเนินงาน 1Q66 มีทิศทางเป็นอย่างไร ในปี 2566 คาดว่าจะเติบโตเท่าไร และมาจากปัจจัยใดบ้าง
โดยปกติการเติบโตของปริมาณขายน้ำมันจะเติบโตตาม GDP ของประเทศ (สภาพัฒน์ฯ คาดการเติบโตเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 2.7-3.7%) โดยคาดว่าในปี 2566 OR น่าจะมีการเติบโตสูงกว่า GDP เนื่องจาก demand ของ Aviation ที่น่าจะเพิ่มขึ้นตามการเดินทางที่มากขึ้น และการเปิดประเทศ ทำให้ภาคท่องเที่ยวฟื้นตัว ซึ่งสำหรับผลการดำเนินงาน 1Q66 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อน ตามปริมาณขายที่เพิ่ม ค่าการตลาดก็คาดว่าจะสามารถกลับมาสู่ปกติ คืออยู่ระหว่าง 0.70 - 1.20 บาทต่อลิตร
9. ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงจากวิกฤตธนาคาร ส่งผลกระทบต่อ Stock gain/loss หรือต้องมีการตั้งสำรองหรือไม่
- โดยปกติ OR มีการบริหารจัดการ stock น้ำมันตาม Supply /Demand อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามหากราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวนสูงอาจจะได้รับผลกระทบทั้งขา +/- โดย OR ได้พิจารณาการคำนวณ Stock Gain/Loss ว่าเป็นเพียงข้อมูล MIS ซึ่งรวมเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุน และการเกิด Stock Gain/Loss ถือเป็นปกติของการดำเนินธุรกิจของ OR ที่ต้องมีการเก็บสำรองสินค้าคงเหลือ
- สำหรับการตั้งสำรองมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (net realizable value: NRV ซึ่ง เป็นวิธีการทางบัญชี ซึ่งต้องพิจารณาประเมินไปตามเงื่อนไขที่มาตรฐานบัญชี กำหนด)
10. ปี 2566 OR จะมีแผนขยาย ptt Station และ EV Station PluZ เพิ่มขึ้นเท่าไร แบ่งเป็นในประเทศและต่างประเทศเท่าไหร่
OR มีแผนขยาย ptt Station ทั้งหมด 204 สถานี แบ่งเป็นในประเทศจำนวน 122 สถานี และต่างประเทศจำนวน 82 สถานี สำหรับ EV Station Pluz มีแผนขยาย 500 สถานี ในประเทศไทย
11. OR ประเมินเทรนด์การเติบโตของรถ EV เป็นอย่างไร และจะมีการเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จ หรือ มีการปรับแผนธุรกิจอย่างไร
- ด้วยภาครัฐมีนโยบายชัดเจนมากขึ้นในการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีนโยบาย 30/30 ตั้งเป้าว่าในปี 2030 ที่มุ่งให้มีจำนวนการผลิตรถยนต์ EV ในประเทศไทยประมาณ 30%ของจำนวนรถยนต์ใหม่ทั้งหมด และสิทธิ์ประโยชน์ต่างๆ ที่ภาครัฐสนับสนุนแก่ผู้ซื้อยานยนต์ไฟฟ้า ทำให้ตลาดยานยนต์ไฟฟ้ามีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรถยนต์ลงทะเบียน PHEV + BEV เพิ่มขึ้นมากคาดการณ์ได้ว่าในช่วง 10 ปีข้างหน้ารถในประเทศไทยจะมีทั้งรถที่ใช้น้ำมันและมีรถที่ใช้พลังงานจากไฟฟ้า OR จึงสร้างความพร้อมของการเปลี่ยนถ่ายรูปแบบการใช้พลังงาน ผ่านกลุ่มธุรกิจ Seamless Mobility
- สำหรับ OR ซึ่งมีจุดแข็งในด้าน network สถานีบริการ ptt station ใน location ที่สำคัญทั่วประเทศ ตั้งเป้าในการเป็นผู้นำในธุรกิจ EV charging จึงเร่งขยายการติดตั้ง EV Station PluZ ทั้งในสถานีบริการและในพื้นที่เชิงพาณิชย์โดยผ่านความร่วมมือกับ partner มีแผนขยายเพิ่ม ในปี 2566 อีกจำนวน 500 แห่ง เร่งพัฒนา Application EV station PluZ ให้สามารถเพิ่มการตอบโจทย์ผู้บริโภคในอนาคต
12. การซื้อกิจการค้าปลีกน้ำมัน หรือการควบรวมของบริษัทคู่แข่ง ส่งผลกระทบต่อ OR ในด้านใดบ้าง
- ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อผู้บริโภคที่จะได้สินค้าและบริการที่ดีขึ้น โดยผู้เล่นทุกรายจะต้องเร่งพัฒนา Product และservice เพื่อดึงดูดลูกค้า
- OR เราก็ยังเป็น Leading market ในตลาดน้ำมันและขายปลีก โดยเรายังมี Competitive advantage ที่มากกว่าผู้เล่นรายอื่นในหลายด้าน เช่น network ที่อยู่ในทำเลศักยภาพ ความครบครันของ oil and nonoil ที่มีทั้งสาม magnet ภายใน ptt Station คือ 1. น้ำมันคุณภาพดีทั้งเกรดพรีเมียมเเละ regular 2. Café Amazon 3. C store 7-11 รวมทั้งพลังงานสะอาดอย่าง EV Station PluZ
- อย่างไรก็ตาม การที่ผู้เล่นอื่นในตลาดโตขึ้น ทำให้เรายิ่งต้องเร่งดำเนินการในหลายเรื่องเพื่อให้ยังคงรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน ทั้งกลยุทธ์ในด้านการขยายสาขา เน้น location ที่เติบโตได้ การเพิ่มกำไรต่อสาขา เร่งทำให้ Non-oil retail มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพื่อตอบโจทย์คนในพื้นที่และดึงคนเข้าปั้ม เพิ่ม Profit ให้กับภาพรวม รวมทั้งการเร่งขยาย EV เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรักษา Momentum ของแบรนด์ ptt Station
13. มีโอกาสเห็นการลงทุนในธุรกิจ Green Energy อื่น ๆ เพิ่มเติมหรือไม่
ปัจจุบัน OR ให้ความสนใจในเรื่องของ Green มากขึ้น โดยเริ่มมีการลงทุนในธุรกิจพลังงานจากแสงอาทิตย์ (Solar Roof)
14. ปี 2566 มีแผนเปิดสาขาใหม่ของ Café Amazon และ Texas Chicken อย่างไร
OR มีแผนขยาย Café Amazon จำนวน 400 สาขา และ Texas Chicken จำนวน 12 สาขา
15. ยอดขาย Café Amazon ใน 4Q/65 ลดลงเป็นครั้งแรกใช่หรือไม่ และใน 1Q/66 มีทิศทางจะเป็นอย่างไร มีจัดโปรโมชั่นอีกหรือไม่
ปริมาณจำหน่ายของร้าน Café Amazon ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ฤดูกาล การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่ายอดแก้วจำหน่ายใน 4Q65 จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ 3Q65 แต่ภาพปี 2566 คาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
16. ในอนาคตบริษัทมีแผนจะทำธุรกิจค้าปลีกนอกสถานีบริการหรือไม่
ปัจจุบัน OR มีการดำเนินการธุรกิจค้าปลีกนอกสถานีบริการอยู่แล้ว โดยเฉพาะร้าน F&B ตัวอย่างเช่น มีร้าน Café Amazon นอก ptt station ในสัดส่วน 44.6% โดยในอนาคตระยะยาวมีแผนปรับเปลี่ยนการทำธุรกิจไปเป็นลักษณะ community space
17. บริษัทมีแผนที่จะทำ M&A หาธุรกิจอื่นมาเพิ่มเติมหรือไม่ และสนใจธุรกิจด้านใดบ้าง
ปี 2566 OR ตั้งงบลงทุน ซึ่งมีส่วนหนึ่งตั้งไว้สำหรับการ M&A และ การร่วมลงทุน ที่สามารถต่อยอดธุรกิจ OR ได้ โดยมีหลาย Deal ที่อยู่ระหว่างการเจรจาซึ่งมีทั้งในกลุ่มธุรกิจ Lifestyle และกลุ่มธุรกิจอื่น โดยเน้นหบักที่เกี่ยวข้องกับ Health and wellness รวมถึงการท่องเที่ยว หากมีความชัดเจนแล้ว OR จะมีการสื่อสารให้ทราบต่อไป
18. โอ้กะจู๋มียอดขายและกำไรปี 2565 เป็นเท่าไร
4Q65 เป็นช่วงที่สถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย รวมทั้งภาวะเงินเฟ้อได้เริ่มปรับตัวลดลง ทำให้ผลการดำเนินงานของโอ้กะจู๋ มีแนวโน้มฟื้นตัว และดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2564
1. แนวทางการป้องกันความเสี่ยงในสินค้าคงคลังในไตรมาสหน้า เป็นอย่างไร (เนื่องจากในปีที่ผ่านมามีเงินสดที่ใช้ไปในเงินทุนหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก)
OR มี Inventory days ประมาณ 10-14 วัน รวม Legal reserve โดย OR มีการบริหารปริมาณสินค้าคงคลังให้เหมาะสมกับปริมาณที่ต้องการจะขาย สำหรับการบริหารความเสี่ยง OR มีนโยบายบริหารความเสี่ยงในการทำ Hedging อยู่ที่ไม่เกิน 50% ซึ่งจะขึ้นกับสภาพตลาดในขณะนั้นด้วย โดยใน Q3 นั้น OR มี Stock สูงกว่าปกติ เนื่องจาก 2 ปัจจัย 1. ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น 2. ใน Q4 มีโรงกลั่นที่มีแผน Shut down จึงทำให้ต้องมีการ Stock น้ำมันใน Q3 เยอะกว่าปกติ เพื่อรองรับปริมาณการขายใน Q4
2. M&A Deal มี Deal ใหญ่ ๆ ที่จะส่งผลต่อผลการดำเนินงานอย่างมีนัยยะหรือไม่ และเงินที่ได้จาก IPO มีค่อนข้างสูง มีการบริหารเงินส่วนนี้อย่างไร
การเจรจาการลงทุนมีหลายขนาดใน pipeline ซึ่งแต่ละ deal จะแล้วเสร็จขึ้นกับหลากหลายปัจจัย อาทิ ความซับซ้อนของ Deal คู่สัญญา เงื่อนไขต่าง ๆ เป็นต้น ดังนั้นในช่วงปลายปี 2565 นี้ คาดว่าจะไม่มี Deal เพิ่มเติมจากที่ได้แจ้งผ่าน SET ไปแล้ว
สำหรับเงินที่ได้รับจาก IPO ได้ทยอยนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งได้เปิดเผยในแบบหนังสือชี้ชวนเสนอขายหลักทรัพย์
3. ในไตรมาส 3 มีค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นมาก จากสาเหตุใด
ประกอบไปด้วยค่าใช้จ่าย One time และ Recurring เนื่องจากในช่วงที่มีการระบาด COVID-19 ทาง OR ห่างหายจากการทำ Marketing Campaign ใหญ่ๆ ดังนั้นใน Q3 OR เริ่มมีการทำ Promotion ทั้งในกลุ่มธุรกิจ Mobility และ Lifestyle สำหรับค่าใช้จ่ายที่เป็น One time นั้น OR มีการจัด Event เรียกว่า Inclusive Growth Days เป็นงานแสดงวิสัยทัศน์ใหม่ของ OR โดยมีการเชิญ SMEs ที่สนใจเข้าร่วมงานกับ OR เข้ามาเจรจาธุรกิจ รวมถึงประชาชนก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชมงาน ซึ่งเป็นการสร้างการรับรู้ในธุรกิจของ OR นอกจากนี้ OR ยังเป็นผู้สนับสนุนการจัดงาน Motor GP
4. แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4 เป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับ ไตรมาส 3 และ ช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่ารายได้ทั้งปี 2565 จะเติบโตเท่าไหร่
จากการพิจารณาปัจจัย Macroeconomic indicators ต่าง ๆ เช่น GDP ของไทย การเติบโตของภาคท่องเที่ยว เป็นต้น รวมถึงการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ ตุลาคม 2565 และในไตรมาส 4 เป็นช่วง Peak ของการเดินทาง ทำให้คาดว่าปริมาณขายกลุ่มธุรกิจ mobility และ lifestyle รวมทั้งกิจการในต่างประเทศ จะปรับตัวดีขึ้นกว่าไตรมาส 3 ที่ผ่านมา รวมทั้งการปรับขึ้นราคาของร้าน Cafe Amazon ทุกเมนู 5 บาท/แก้ว จะช่วยทำให้ธุรกิจ Lifestyle สามารถรักษาระดับ EBITDA margin ไว้ได้ หลังจากที่เจอสภาวะต้นทุนที่สูงขึ้นจากระดับเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา
5. เป้ารายได้ปี 2566 เป็นอย่างไร วางงบลงทุนในปี 2566 จำนวนเท่าไหร่ และทำอะไรบ้าง
ปกติรายได้ของ OR จะเติบโตตามการเติบโตของประเทศ และระดับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยปี 2566 กลุ่ม ปตท. คาดการณ์ว่าราคาน้ำมัน จะอยู่ที่ 89 USD/BBL
ในปี 2566 ตั้งงบลงทุนที่ 31,196.70 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยาย network ในทุกกลุ่มธุรกิจ Mobility, lifestyle, global และการร่วมลงทุนที่เกี่ยวข้องเป็นหลัก
6. การเปิดร้านซักผ้าในสถานีบริการ มีข้อดีอย่างไร ลงทุนโดยใคร
การลงทุนร่วมทุนกับ บริษัท Knex ในสัดส่วน 40% ในธุรกิจซัก อบผ้า อัตโนมัติใน Brand Otteri นั้นเพื่อตอบสนองความต้องการตาม Lifestyle ของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ใช้เวลากับการทำงานบ้านด้วยตนเอง การเปิดร้าน Otteri ในสถานีบริการ PTT station จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าใช้บริการในสถานีบริการ จากสถิติ โดยเฉลี่ยผู้เข้าใช้บริการในสถานีบริการประมาณ 30 นาที ต่อครั้ง ซึ่งระยะเวลารอคอยดังกล่าว ผู้เข้าใช้บริการจะเข้าไปจับจ่ายในร้านค้าปลีกอื่น ๆ ในสถานีบริการ
7. ยอดจำหน่ายในลาวลดลงเพราะเหตุใด
ในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 สปป.ลาว มีปริมาณขายลดลงในทุกผลิตภัณฑ์ จากผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำมัน เนื่องจากข้อจำกัดในการนำเข้าที่ได้รับผลกระทบ จากการขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ
8. มีแผนจะทำโรงแรม ใน PTT Station ไหม
เนื่องจากเป็นธุรกิจโรงแรมที่ OR มีความเชี่ยวชาญน้อย จึงต้องใช้เวลาในการศึกษาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ และพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลงทุน
1. แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 เป็นอย่างไร
OR คาดว่าภาพรวมผลประกอบการจะยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ อาทิ การเติบโตของ GDP นโยบายการเปิดประเทศทั้งไทยและประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค การผ่อนคลายมาตรการในการเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นต้น สนับสนุนให้ปริมาณการขายน้ำมันทั้งในส่วนของธุรกิจ Mobility และ Global จะยังเติบโต สำหรับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle แม้ว่าจะมีปัจจัยที่ราคาต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งการขึ้นวัตถุดิบหลัก เช่น เมล็ดกาแฟ ได้รับรู้ผลกระทบดังกล่าวในไตรมาสที่ 2 แล้ว ดังนั้นในครึ่งปีหลัง ก็จะยังมีผลกระทบจากเรื่องต้นทุนวัตถุดิบปรับเพิ่มขึ้นแต่ไม่มากนัก การค่อย ๆ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็จะช่วยให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มธุรกิจ Lifestyle ทั้ง F&B และ อื่น ๆ จะมีรายได้ที่เติบโต จะเห็นได้จากในไตรมาสที่ 2 ที่ปริมาณจำหน่ายของ Cafe Amazon ทำสถิติ new high และคาดว่าก็จะยังสามารถเติบโตในระดับสูงต่อไป
สำหรับกลุ่มธุรกิจ Global ก็ยังเติบโตเช่นเดียวกัน ทั้งฟิลิปปินส์ กัมพูชา ตามปัจจัยที่กล่าวข้างต้น ยกเว้น สปป.ลาว ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาภายในประเทศ
2. M&A Deal มีอีกกี่ Deal และเป็นธุรกิจประเภทใด จะได้ข้อสรุปภายในปี 2565 กี่ Deal
OR ยังมี deal ที่อยู่ระหว่างเจรจา คาดว่าหากการเจรจาสำเร็จจะมีอีก 2-3 deal ที่จะเปิดเผยภายในปีนี้ โดยธุรกิจที่ OR สนใจนอกจากจะเป็นกลุ่ม F&B แล้ว OR ยังมองหาโอกาสในธุรกิจที่ตอบสนองกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งสร้างโอกาส ในการเติบโตร่วมกันทั้งในและต่างประเทศ
3. แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในช่วงครึ่งปีหลังเป็นอย่างไร
คาดว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกยังค่อนข้างผันผวน และภาพรวมราคาเฉลี่ยฯ น่าจะปรับตัวลดลงกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากความกังวลต่อเศรษฐกิจที่อาจเกิด การชะลอตัวและจากสถานการณ์เงินเฟ้อในหลายประเทศ
4. การขยายสาขาของ PTT Station และ Cafe Amazon ใน 2H/65 เป็นอย่างไร
OR ได้ปรับแผนการขยาย Network ในปี 2565 เป็นดังนี้
- PTT Station 117 สถานี (เดิม 129 สถานี)
- Cafe Amazon 415 สาขา (เดิม 389 สาขา)
5. ค่าการตลาดของไตรมาสที่ 3 เทียบกับไตรมาสที่ 2 เป็นอย่างไร
คาดว่าค่าการตลาดในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 จะอ่อนตัวลง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ที่ค่าการตลาดอยู่ในระดับสูงกว่าปกติ โดยค่าการตลาดในไตรมาสที่ 3 ยังอยู่ในระดับ +/-1 บาทต่อลิตร
6. หากราคาน้ำมันยังคงขยับขึ้นต่อเนื่อง จะกระทบต่อค่าการตลาดอย่างไร รวมถึงการตรึงราคาน้ำมันดีเซลหน้าสถานีบริการ จะส่งผลต่อค่าการตลาดทางลบหรือไม่
ในภาวะราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลกดดันต่อผู้ค้าน้ำมันในการปรับ ราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการ ให้สอดคล้องกับการขึ้นของราคาพลังงานในตลาดทำให้ค่าการตลาดจะอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งผู้บริโภคยังจะมีแนวโน้มลดการเดินทางในช่วงนี้
อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการ stock ที่มีอยู่ของผู้ค้าน้ำมันแต่ละราย ในภาวะราคาน้ำมันขาขึ้นอาจช่วยส่งผลบวกต่อค่าการตลาดโดยรวมให้ปรับดีขึ้น ตลาดน้ำมันในประเทศไทย เป็นตลาดเสรี ดังนั้นผู้ค้าน้ำมัน ที่ตรึงราคาน้ำมันดีเซล ในช่วงราคาน้ำมันขาขึ้น จะส่งผลให้ค่าการตลาดไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ก็อาจทำให้มีปริมาณขายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ค้ารายอื่นที่ปรับเพิ่มราคาขายปลีก
1. จากประสบการณ์ กินกาแฟ ของ Cafe Amazon พบว่าการชงบางสาขา รสชาตไม่คงที่ในบางสาขา ทาง OR ได้มีทดสอบหรือมีแนวทางตรวจสอบบ้างหรือไม่ เพราะมีคู่แข่งบางเจ้าใช้เป็นระบบอัตโนมัติในการชงทำ ให้มีความแม่นยำ ของรสชาตและเป็นกระแสมาก กลัวว่าความนิยมกาแฟของ OR จะลดลง
OR ต้องขอขอบคุณ และน้อมรับคำแนะนำจากท่านนักลงทุน
OR ให้ความสำคัญต่อคุณภาพของสินค้าอย่างมาก โดยในกระบวนการควบคุมคุณภาพนั้น OR กำหนดให้เจ้าของร้าน Cafe Amazon ต้องเข้ารับการอบรมและต้องผ่านการทดสอบหลักสูตรอบรมผู้บริหารร้านก่อนเปิดร้านใหม่ นอกจากนั้น OR จะส่งทีมเข้าไปติดตั้ง พร้อมทั้งจัดอบรมแบบ On-the-job Training ก่อนการเปิดร้าน เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า
OR จะมีทีม Audit เข้าตรวจสอบมาตรฐานร้านค้าเป็นประจำทุกเดือน และยังมีทีม Mystery Audit ไปตรวจสอบในกรณีที่ร้านค้าเข้าเกณฑ์เช่น คะแนนต่ำ มีข้อร้องเรียน หรือได้คะแนนด้านการบริการที่ไม่ดี รวมถึง Mystery Shopper ที่จ้างบุคคลภายนอกให้ดำเนินการประเมินในมุมของลูกค้าอีก 2-3 ครั้งต่อปี
ปัจจุบันก็เริ่มมีการใช้ Robot ในการช่วยชงกาแฟ โดย OR ก็พยายามพัฒนาและ ปรับปรุงคุณภาพสินค้าและบริการอยู่เสมอ
2. การตรึงราคาดีเซล และการลดสัดส่วน B100 ทางOR มีผลกระทบอย่างไรบ้าง
OR ได้ช่วยลดภาระผู้บริโภคโดยชะลอการปรับราคาขายหน้าสถานีบริการ ตั้งแต่ปลายปี 2564 ทำให้ราคาขายของ OR ต่ำกว่าแบรนด์อื่น เกือบทั้ง 1Q/65 ส่งผลให้ OR ได้ปริมาณขายดีเซลเพิ่มขึ้น
3. ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q/65 จะเติบโตจากไตรมาสแรก และช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือไม่ จากปัจจัยหนุนใดบ้าง และช่วงที่เหลือของปีมองอย่างไร
จากตัวเลขของเดือนเม.ย. คร่าวๆ Volume ของเบนซิน ดีเซล ก็ไม่ได้มีปัญหา ยังคงเติบโตต่อไปได้ นอกจากนั้นยังมีส่วนของน้ำมัน Jet มาเพิ่ม เพราะมีการเปิดประเทศ มีนักท่องเที่ยวมากขึ้น เที่ยวบินเพิ่มขึ้น (จากช่วง COVID-19 ปีก่อนที่ Volume Jet ลดลงไปเกือบ 70%)
4. สังเกตสถานีบริการของคู่แข่งที่เปิดสาขาใหม่ เตรียมพื้นที่รองรับพวกรถบรรทุกมากขึ้น ทาง OR มองว่ามีผลดีผลเสียอย่างไรบ้าง
ปัจจุบัน OR ก็มีสถานีบริการในรูปแบบ PTT station truck park จำนวน 10 สถานี แล้ว ซึ่งจุดเด่นของสถานีบริการประเภทนี้ คือ พื้นที่กว้างเพราะต้องรองรับรถใหญ่ บริการน้ำมันดีเซลแบบเติมไว จากจุดเด่นข้างต้นก็ทำให้ได้ Volume ขายดีเซลเพิ่มขึ้นถือเป็นอีกช่องทางในการเพิ่มยอดขาย แต่ก็ต้องออกแบบ Truck park ให้มี Facility ที่พิเศษกว่าสถานีบริการน้ำมันทั่วไป ซึ่งสถานีบริการประเภทนี้ก็จะมียอดขายในกลุ่มของ Non-oil ซึ่งมีอัตรา margin ที่สูงนั้น ต่ำกว่าสถานีบริการรูปแบบทั่วไป เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เน้นการเข้ามาซื้อเพียงน้ำมันอย่างเดียว
5. แผนการใช้เงินในช่วงที่เหลือของปีวางไว้อย่างไร ใช้ทำ อะไรบ้าง / เงินลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินระยะสั้น ใน 1Q/65 มาจากสินทรัพย์ลงทุนส่วนไหน
54,000 ล้านบาท เงินที่ได้จากการ IPO นั้น OR มีแผนการลงทุน 5 ปี ที่แจ้งไว้ตั้งแต่แรก โดยจะทยอยลงทุนตามแผนที่ได้แจ้งไว้ในเอกสาร Filing
ส่วนเงินที่ยังไม่ได้นำไปลงทุนตามแผนนั้น ทาง OR มีการนำเงินไปลงทุนระยะสั้น เช่นเงินฝากธนาคาร รวมถึงกองทุนต่าง ๆ และได้บันทึกเป็นเงินลงทุนระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี หรือไม่เกิน 3 ปี
สำหรับเงินลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ คือได้มาจากเงินที่ OR ได้มาจากการดำเนินงาน
6. เทสล่า ค่ายรถยนต์สหรัฐฯ เริ่มขยายเข้ามาในไทย จะกระทบกับการใช้น้ำมัน และธุรกิจของ OR หรือไม่
ในสถานการณ์ที่ราคาพลังงานอยู่ในระดับสูง นั้นยานยนต์ไฟฟ้า(EV) นั้นเป็นรถที่ใช้พลังงานสะอาด ซึ่งเป็นทางเลือกของผู้บริโภค โดยคาดการณ์ว่าในประเทศไทยอีก 5-10 ปีข้างหน้า จำนวนรถ EV จะเพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่ง OR เราได้วางแผนรองรับในเรื่องดังกล่าวแล้วโดยมีแผนขยายสถานี Charging EV ให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ที่มีศักยภาพ ทั้งในสถานีบริการ PTT station และนอกสถานี แผนการขยายในปี 2565 จะมี EV Charging station เพิ่มอีก 350 สถานี ให้รองรับความต้องการของผู้บริโภค
FIT Auto ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อบบำรุงรถยนต์ ICE ในปัจจุบันของ OR กำลังมีแผนในการขยายไปให้บริการการซ่อมบำรุงรถยนต์ EV ซึ่งในปัจจุบันก็เริ่มมีความร่วมมือกับค่ายผลิตรถยนต์ EV ในการศึกษาเรื่องนี้
ดังนั้นการที่ Tesla เข้ามาในไทย นั้นถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ OR อาจจะสามารถมีความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกัน ได้ในอนาคต
7. มองราคาน้ำมันในช่วงที่เหลือของปีนี้ไว้ อย่างไร
ตามการคาดการณ์ของกลุ่ม ปตท. ราคาน้ำมันดิบดูไบน่าจะอยู่ที่ประมาณ 100 USD/Barrel
8. ปัจจุบันมีดีลซื้อกิจการ หรือเข้าลงทุน เพิ่มเติมอีกหรือไม่ เป็นธุรกิจใด
Deal ยังมีมากพอสมควร แต่ทุกอย่างยังเป็น Confidential โดยส่วนใหญ่ Deal จะเกี่ยวกับด้าน lifestyle เพราะอยากตอบโจทย์ผู้บริโภคที่กำลังเปลี่ยนไปในอนาคต ก็จะมีทั้ง F&B และอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน โดยที่ผ่านมาอาจจะชะลอจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ติดต่อประสานงานค่อนข้างลำบาก คาดว่าปีนี้จะเป็นไปได้เร็วขึ้น
9. ประเมินค่าการตลาดของปีนี้ เทียบกับปีก่อนจะเป็นอย่างไร
โดยปกติค่าการตลาดของน้ำมันเคลื่อนไหวในช่วงแคบ ๆ การที่ภาครัฐออกมาช่วยลดภาระภาคประชาชนและภาคธุรกิจ โดยใช้กลไกเงินกองทุนน้ำมัน และลดภาษีสรรพสามิต ในช่วงที่ราคาพลังงานอยู่ในระดับสูง ก็ทำให้ลดภาระผู้ประกอบการเช่น OR โดย OR เองก็ต้องบริหารจัดการในเรื่องของต้นทุนซื้อจากโรงกลั่นอย่างใกล้ชิด จึงคาดว่าจะยังสามารถรักษาระดับของค่าการตลาดได้ ใกล้เคียงกับไตรมาสแรก
10. แผนการขยายสาขาทั้งสถานีน้ำมัน Non-Oil ปีนี้เป็นอย่างไร งบลงทุนเท่าไหร่ แผนการขยายต่างประเทศเป็นอย่างไร
ยังคงเป็นไปตามแผนเดิม โดยในปี 2565 มีแผนจะขยายสถานีบริการ PTT Station จำนวน 195 สถานี (ไทย 129 ต่างประเทศ 73 ) และเปิดร้าน Cafe Amazon จำนวน 518 ร้านค้า (ไทย 389 ต่างประเทศ 129) ซึ่ง 1Q/65 ที่ผ่านมาการขยาย network อาจจะเปิดต่ำกว่าไตรมาสอื่น ซึ่งเป็นปกติของธุรกิจ แต่ช่วงไตรมาส 2-4 ก็จะขยายมากขึ้น คาดว่ายังเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ข้างต้น
11. เเป้าหมายการเติบโตปี 65 คาดรายได้เติบโตเท่าไหร่ และ 3 ปีนับจากนี้คาดรายได้เติบโตเท่าไร
การเติบโตโดยเฉลี่ยของ OR สอดคล้องไปกับการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ซึ่งคาดการณ์การเติบโตของ GDP ไทย ในปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 2.5%-3.5%
12. เงินลงทุนที่เราลงทุนใน venture capital หรือกลุ่ม startup ณ ปัจจุบันรวมๆ กันเป็นเงินลงทุนเท่าไร และ ปีนี้มีตั้งงบลงทุนในส่วนนี้เท่าใด
Finnoventure Private Equity Trust I 150 ล้านบาท
SeaX Fund II L.P. 50 ล้านบาท
การลงทุนผ่าน ORZON 221 ล้านบาท
ในปี 2565 มีการตั้งงบลงทุนในส่วนของ Innovation ไว้ประมาณ 3,700 ล้านบาท
13. ค่าเฉลี่ยค่าเช่าพื้นที่ใน ptt station
OR พยายามหา Content ค้าปลีกอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับพลังงานเพิ่มมากขึ้น แต่ค่าเช่าค่อยข้างแตกต่างไปตามพื้นที่ทั้งในเมืองและนอกเมือง แต่ OR ต้องการเติบโตไปพร้อมกับ SME โดยค่าเช่าก็จะเป็นราคาเทียบเคียงราคาตลาด
14. ลูกหนี้การค้าที่เพิ่มขึ้น คือรายการใด มีโอกาสเป็นหนี้เสียหรือไม่
ลูกหนี้อื่นที่เพิ่มขึ้น จากการขอคืนเงินเรื่องกองทุนน้ำมัน
ลูกหนี้การค้าที่เพิ่มขึ้นนั้น เพิ่มจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยหนี้เสียนั้นมีสัดส่วนที่ น้อยมาก เพราะ OR มีกระบวนการให้สินเชื่อที่ค่อนข้างรัดกุมและเข้มงวด
1. เป้าหมายรายได้ปี 2565 เติบโตเท่าไหร่จากปี 2564 และผลการดำเนินงานในช่วง 1Q/65 มีทิศทางอย่างไรบ้าง
รายได้ของ OR ส่วนใหญ่ (90%) มาจากธุรกิจ Mobility ซึ่งแปรตามระดับราคาน้ำมันและปริมาณขายน้ำมัน ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นก็คาดว่าระดับราคาน้ำมันเฉลี่ยในปี 2565 จะสูงกว่าปี 2564 ในส่วนปริมาณการขายเติบโตตาม GDP ของประเทศ สำหรับผลการดำเนินงาน 1Q/65 ปัจจุบันยังเห็นภาพไม่ชัด คงต้องรอการรวบรวมข้อมูลอีกระยะ
2. งบลงทุนปี 2565 เป็นเท่าไหร่และนำไปใช้อย่างไร
งบลงทุนปี 2565 - 2569 ทั้งสิ้นประมาณ 93,500 ล้านบาท (เฉพาะปี 2565 ประมาณ 26,900 ล้านบาท) โดยแผนการลงทุนแบ่งตามธุรกิจดังนี้
Mobility: ส่วนใหญ่เป็นการขยาย PTT station และมุ่งลงทุนในพลังงานสะอาด ทั้ง EV Charging station ทั้งในและนอก PTT station รวมทั้ง Solar rooftop
Lifestyle: ส่วนใหญ่เป็นการขยายร้าน Cafe Amazon และ F&B Brand อื่น และหาโอกาสในการร่วมลงทุน
Global: ส่วนใหญ่เป็นการขยาย PTT station และ ร้าน Cafe Amazon ในต่างประเทศ รวมถึงหาโอกาสทางธุรกิจ ผ่าน Partner ในต่างประเทศ เพื่อการร่วมลงทุน
OR Innovation: ลงทุนผ่าน Venture capital และ ORZON ในการหาโอกาสทางธุรกิจเพื่อต่อยอดธุรกิจเดิมที่ทำอยู่ รวมถึงหาธุรกิจใหม่ (new S curve)
Other: การลงทุนใน Infrastructure ต่าง ๆ เช่น ระบบ IT เป็นต้น
3. คาดการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมีผลกระทบทั้งทางบวกและลบต่อ OR อย่างไร
OR ดำเนินธุรกิจ Mobility ซึ่งมี Business Model แบบ Cost Plus และมีกำไรขั้นต้นค่อนข้างคงที่ในช่วง 0.70 - 1.30 บาทต่อลิตร ดังนั้นการที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นหรือต่ำลง อาจจะส่งผลกระทบต่อ OR ไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม OR มีนโยบายบริหารความเสี่ยงในเรื่องของราคาน้ำมัน เพื่อลดผลกระทบในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน
4. แผนการขยายสถานีชาร์จรถไฟฟ้าปี 2565
ในปี 2565 OR มีแผนขยายสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 350 สถานี โดยแบ่งออกเป็นในสถานีบริการ 200 สถานี และนอกสถานีบริการ 150 สถานี
5. ผลกระทบจากมาตราการของภาครัฐส่งผลอย่างไรต่อ OR
OR ได้ช่วยบรรเทาภาระภาคประชาชนจากภาวะกดดันจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูง ทำให้มีการชะลอการปรับราคาขายน้ำมันดีเซลหน้าสถานีบริการในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ Marketing Margin ของ OR อาจจะอ่อนตัวไปเล็กน้อย
6. ราคาเมล็ดกาแฟมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ และกระทบต้นทุนธุรกิจ Cafe Amazon อย่างไร OR มีแหล่งเมล็ดกาแฟเพื่อรองรับการขยายสาขา Cafe Amazon ได้อีกมากน้อยแค่ไหน
เนื่องจากการจัดหาเมล็ดกาแฟของ OR มาจาก Local 100% จึงไม่ได้อ้างอิงราคาตลาดโลก และเป็นการประมูลซึ่งมีการทำสัญญาล่วงหน้าไว้แล้ว ดังนั้นการที่ราคาเมล็ดกาแฟปรับตัวสูงขึ้นก็มีผลทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ปัจจุบัน OR ยังสามารถรักษาระดับ EBITDA margin ให้ยังอยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ ทั้งนี้ก็ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สำหรับปริมาณการใช้เมล็ดกาแฟ ของ Cafe Amazon ตามที่คาดการณ์ไว้จะสอดคล้องกับปริมาณผลผลิตในประเทศ และปัจจุบัน OR ก็ได้หาแนวทางเพิ่มปริมาณเมล็ดกาแฟ อาทิ ร่วมกับมูลนิธิโครงการหลวง ในการให้ความรู้ และพัฒนาระบบการปลูกกาแฟคุณภาพ ให้มีมาตรฐาน พัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงการขยายพื้นที่ปลูกกาแฟ ควบคู่ไปกับการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับแหล่งต้นน้ำของประเทศอย่างต่อเนื่อง
7. ใน presentation คาดการณ์ราคาน้ำมันปี 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 78.6 USD/BBL จากสถานการณ์สงครามยูเครน-รัสเซีย ทางบริษัทมีการประเมินราคาน้ำมันตลาดโลกใหม่หรือไม่ และกระทบทิศทางธุรกิจอย่างไร
มีการคาดการณ์ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น โดยประมาณการราคาน้ำมันในปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 107 USD/BBL โดยธุรกิจของ OR เป็น Business Model รูปแบบ Cost Plus ดังนั้น OR จะได้รับผลกระทบจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันไม่มากนัก อย่างไรก็ตามการที่รัฐบาลมีการขอความร่วมมือในการพยุงราคาน้ำมันขายปลีกหน้าสถานีบริการ จะส่งผลให้ Marketing Margin ที่จะอ่อนตัวลงเล็กน้อย นอกจากนี้การที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นจะส่งผลต่อธุรกิจ Lifestyle ด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อและกำลังซื้อของผู้บริโภคอาจมีการปรับตัวลดลง
8. ค่าเฉลี่ยจำนวนยอดขายต่อสาขา ของ Cafe Amazon อยู่ที่เท่าไหร่
Average sale per day per store ปี 2564 อยู่ที่ 15,158 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 9.8% จากปี 2563 ที่ 13,803 บาท
9. ทางบริษัทมีการวางแผนจัดการกับ Marketing Margin ในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างไร
OR ดำเนินธุรกิจ Mobility ใน Business Model แบบ Cost Plus ดังนั้น Marketing Margin ของ OR จะได้รับผลกระทบจากการปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลงของราคาน้ำมันไม่มากนัก โดยเฉลี่ย Marketing Margin ของ OR จะอยู่ที่ 1 บาท ต่อลิตร หรือปรับเพิ่มขึ้นลดลงจากนี้เพียงเล็กน้อย
1. จุดยืนและทิศทาง EV ในอนาคตของ OR เป็นอย่างไร
OR ได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีความสำคัญของพลังงานสะอาด ทั้งนี้ OR ซึ่งเป็นบริษัท Flagship ในกลุ่ม ปตท. นั้นจะมีบทบาทเป็น Marketing Arm ใน EV Ecosystem ให้กับกลุ่ม ปตท. โดย OR มีการเตรียมการรองรับการเปลี่ยนผ่านธุรกิจจาก Oil to EV เป็นอย่างดี ซึ่งมีการศึกษาถึงแนวโน้มธุรกิจ EV พร้อมกับศึกษานโยบายภาครัฐ โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 OR มีการติดตั้ง EV Charger ในสถานีบริการน้ำมันแล้ว 31 สถานี และ จะขยายเป็น 97 สถานี ณ สิ้นปี 2564 และ 300 สถานี ภายในปี 2565 ตามลำดับ OR พัฒนา EV Application ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค อาทิ การค้นหา EV Charging Station ในบริเวณที่ใกล้กับตำแหน่งของลูกค้า การจองเวลาเข้ารับริการ ตรวจสอบสถานะการ charge การ payment ที่หลากหลาย เป็นต้น
นอกเหนือจากการบริการ EV Charging ในสถานีบริการน้ำมัน PTT station OR ยังติดตั้ง EV Charger นอกสถานีบริการ ควบคู่ไปกับ ธุรกิจบริการดูแลรถยนต์ FIT Auto ซึ่งในอนาคตจะมีบริการซ่อมบำรุงรถยนต์ EV ด้วย
ทั้งนี้ OR พร้อมตอบโจทย์คนเดินทางทุกรูปแบบ ทั้งผู้ที่ต้องการใช้น้ำมันและผู้ที่ต้องการใช้พลังงานประเภทอื่นในอนาคต โดย OR จะยังคงรักษาความเป็นผู้นำใน Oil Ecosystem พร้อมทั้งขยายฐานธุรกิจไปสู่ Energy Solution Ecosystem เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งหมดของผู้ขับขี่รถยนต์
2. OR มีแผนที่จะใช้ Crypto Currency หรือไม่
OR อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามจะต้องอยู่ภายใต้การปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
3. ทิศทางการเติบโตใน 4Q/2564 เมื่อเทียบกับ 3Q/2564 เป็นอย่างไร
แนวโน้มของ 4Q/64 มีปัจจัยบวกจากการที่ภาครัฐเปิดประเทศ สถานการณ์ COVID-19 ในไทยดีขึ้น มีความคืบหน้าในการกระจายวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 รวมถึงปลายปีเป็นช่วงเทศกาลที่ผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอย ประกอบกับมีการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาว และมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น จึงคาดว่าปริมาณการขายทั้ง Oil และ Non- oil ดีขึ้น แต่ก็มีปัจจัยกดดันในเรื่องราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ margin oil มีแนวโน้มจะอ่อนตัวลง
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยและทั่วโลกก็ยังเผชิญกับความไม่แน่นอนของการกลายพันธุ์ของ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ OMICRON ซึ่งทาง OR ก็มีแผนการรับมือ ทางธุรกิจเกี่ยวกับความไม่แน่นอนดังกล่าว ผ่านแผนการบริหารความต่อเนื่อง ของธุรกิจ (Business Continuity Management หรือ BCM)
4. แนวโน้มค่าการตลาดใน 4Q/64 เมื่อเทียบกับ 3Q/64 และค่าการตลาดที่เหมาะสมของธุรกิจน้ำมันควรเป็นเท่าใด
ค่าการตลาดใน 4Q/64 น่าจะอ่อนตัวลง เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว
ค่าการตลาดโดยปกติของ OR อยู่ในช่วงประมาณ 0.80 - 1.30 บาทต่อลิตร
5. ขอทิศทางราคาน้ำมันดิบ ปริมาณการจำหน่ายน้ำมัน และเป้าหมายรายได้ ในปี 2565
แนวโน้มราคาน้ำมันในปี 2565 โดยในกลุ่ม ปตท.มองว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ย ปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 65 USD/BBL
ทั้งนี้ ทางกลุ่ม ปตท. มีการทบทวนประมาณการอย่างสมำเสมอเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์
สำหรับปริมาณขายน้ำมันในปี 2565 คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวหลังรัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พ.ย. โดยเทียบเคียงได้กับ Pre COVID-19 ยกเว้นในกลุ่มน้ำมันอากาศยาน ซึ่งปีหน้า คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับช่วง Pre COVID-19
6. ขอรายละเอียดงบลงทุน และ แผนดำเนินการ M&A ในปี 2565
OR มองหาโอกาสในการลงทุนและการสนับสนุน Synergy ร่วมกันกับ Startup และ SMEs เพื่อต่อยอดธุรกิจจากจุดแข็งของ OR ไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย PTT station ทั่วประเทศรวมถึงธุรกิจ Non-Oil อย่าง Cafe Amazon และแบรนด์ F&B ต่าง ๆ ที่มีศักยภาพทั่วประเทศ เรามีการร่วมลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความหลากหลายของประเภทของอาหารและเครื่องดื่ม โดยในอนาคต OR จะขยาย Portfolio ไปที่ธุรกิจในกลุ่ม Health & Wellness และ Tourism ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับธุรกิจหลักและลูกค้าในปัจจุบัน เช่น อาหารออร์แกนิก ฟิตเนส และอื่นๆ โดย OR ต้องการก้าวไกลกว่าธุรกิจน้ำมัน พร้อมกับการเติบโตไปด้วยกันกับพันธมิตร สังคมชุมชน และสิ่งแวดล้อม
สำหรับแผนการลงทุนปี 2565 อยู่ระหว่างการนำเสนอบอร์ด OR ที่จะพิจารณา ในเดือนนี้
7. ขอขนาดและรายละเอียดของ Deal ที่ ORZON จะลงทุน
ORZON มีนโยบายลงทุน ในธุรกิจ startup ในช่วงเริ่มแรกโดยจะเน้นไปที่ธุรกิจใหม่ๆ ภายใต้กรอบ Mobility & Lifestyle อาทิ Smart Retail, Mobility, Energy, Food and Beverage, Travel, Health & Wellness และ Information Technology เพื่อต่อยอดธุรกิจของ OR ทั้งนี้ OR ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้ เนื่องจากต้องขอปิด Deal ให้สมบูรณ์ก่อน
8. แผนการขยายสาขาของกลุ่มธุรกิจต่างประเทศเดิม และประเทศใหม่ๆ
ในปี 2564 กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ มีแผนการขยายสถานีบริการ จำนวน 43 สถานี และ Cafe Amazon จำนวน 46 สาขา นอกจากนี้ยังมีร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ Jiffy จำนวน 5 สาขา
ณ ปัจจุบัน OR มีธุรกิจใน 10 ประเทศ ซึ่งการขยายธุรกิจไปในประเทศใหม่ๆ OR จะใช้ประโยชน์จากแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ความเชี่ยวชาญ และเป็นที่ยอมรับ เพื่อนำไปปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในแต่ละประเทศ รวมถึงแสวงหาโอกาส ที่เหมาะสมในการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และ/หรือ การร่วมทุน (JV) ในต่างประเทศ ซึ่งประเทศที่เราสนใจและกำลังศึกษาความเป็นไปได้ อาทิ อินโดนีเซีย เป็นต้น
9. แหล่ง Source of Fund ของ OR และแผนระดมทุนใน ปี 2565
OR มีแหล่งเงินทุนจากการ IPO ซึ่งแผนการใช้เงินดังกล่าวเพื่อขยายเครือข่ายทั้ง Oil และ Non-Oil ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ OR ยังมีกระแสเงินสดที่ได้รับจากการดำเนินงาน ซึ่งนำมาใช้สำหรับ Opportunity ในการ M&A และการร่วมทุน
ปัจจุบัน OR ยังไม่มีแผนที่จะระดมทุนเพิ่มเติม
1. OR ได้รับผลกระทบกับค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงบ้างหรือไม่
เนื่องจาก OR ซื้อ-ขายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นรายการที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศของ OR มีน้อยมาก ที่ระดับต่ำกว่า 10% และไม่มีเงินกู้ที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ ดังนั้นผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนต่อ OR ค่อนข้างน้อย รวมทั้ง OR ก็มีการบริการความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยปิดความเสี่ยงจากธุรกรรมการค้ามากกว่า 90%
2. ปริมาณการเติมน้ำมันในไตรมาส 3 นี้ เป็นอย่างไร และประเมินผลงานครึ่งปีหลังไว้อย่างไร รวมทั้งคาดการณ์ผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตเท่าไหร่
ผลการดำเนินงานของ OR โดยหลักสอดคล้องกับอัตราการเติบโตของประเทศ โดยในไตรมาส 3 นี้มีการควบคุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ, lockdown เข้มข้นในบางพื้นที่จากตัวเลข 2 เดือนแรกในไตรมาส 3 ของปี 2564 ปริมาณการเติมน้ำมันลดลงในกรอบประมาณ 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังมองว่าหากมีการผ่อนคลายมาตรการ และเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวได้ กิจกรรมทางการค้ากลับมาฟื้นตัวก็น่าจะปรับตัวดีขึ้น อย่างไร ก็ตามยังมีความท้าทายในหลายเรื่องเช่นการฉีดวัคซีนได้จนถึงระดับภูมิคุ้มกันหมู่ ( Herd immunity ) จะเกิดขึ้นได้เมื่อไร, การควบคุมการติดเชื้อ
3. ขอรายละเอียดโรงงานเบอเกอร์รี่ และช่วยอธิบายประโยชน์ของโรงงานนี้ต่อธุรกิจของ OR
เนื่องจากปัจจุบัน OR รับ Bakery จาก SMEs เข้ามาจำหน่ายในร้าน Cafe amazon ดังนั้นเพื่อให้สินค้าในร้านมีความเป็นมาตรฐาน และ OR สามารถควบคุมคุณภาพ และต้นทุนเองได้ จึงเป็นโอกาสในการรักษาระดับ Margin ที่ต้องการได้ในระยะยาว รวมทั้ง OR ตั้งเป้าในการเพิ่ม Ticket size ในส่วนของ non-drink portion จาก 9% เป็น 13% ในระยะกลาง ดังนั้นเราเชื่อว่าการที่เรามีโรงงานเบอเกอร์รี่ เองจะสามารถทำให้เราสามารถดำเนินการได้ตามเป้าที่วางไว้ และOR ยังคงให้ความสำคัญกับการเติบโตไปร่วมกับ SMEs โดยโรงงานเบอเกอร์รี่จะsupply 30%-40% ของสสินค้าทั้งหมดในร้าน Cafe Amazon.
4. ภาวะราคาน้ำมันที่สูงเป็นประโยชน์ต่อ OR อย่างไร
ราคาขายปลีกน้ำมันเป็นแบบ cost plus model ดังนั้นเมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นจึงไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อกำไรขั้นต้น โดยปกติแล้ว อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรอยู่ที่ระหว่าง 0.80-1.20 บาท (โดยในการปรับราคาหน้าสถานีบริการน้ำมัน จะมีการนำ inventory gain / loss เข้าไปคำนวณด้วย)
5. การมุ่งเน้นสู่การเติบโตจากภายนอก (inorganic growth), OR ให้ความสนใจธุรกิจอาหารประเภทใด
OR มีหลากหลาย Deal ทั้งในธุรกิจ F&B และ non F&B ที่อยู่ระหว่างการเจรจา ทั้งนี้ OR เปิดกว้างสำหรับทุก ๆ โอกาสที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศน์ของ OR
6. โอกาสที่ OR จะเข้าไปทำธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อเร่งการเติบโตในธุรกิจ EV มีมากน้อยแค่ไหน
ในปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าทั้ง EVs and Hybrid EV/Plug-in Hybrid EV ที่จดทะเบียนในไทยยังมีไม่มาก น้อยกว่า 2% ซึ่งเป็นตัวเลขที่มาจากสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (Electric Vehicle Association of Thailand – EVAT) โดย OR มีการติดตามอย่างใกล้ชิดในเรื่องของ การพัฒนาในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง และเชื่อว่า OR มีการเตรียมความพร้อมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในอนาคต อีกทั้งยังมองหา partners เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ physical platform รวมถึงมีการพัฒนา EV station application ด้วย
7. OR มีการทำธุรกิจตามเทรน new S-curve อย่างไรบ้าง
กลยุทธ์การลงทุนของ OR จะลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องและตอบโจทย์ Mobility และ Lifestyle เพื่อต่อยอดในธุรกิจปัจจุบันที่ OR ดำเนินการอยู่รวมถึงแนวโน้มธุรกิจที่ให้สำคัญต่อเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น ซึ่งการลงทุนในกลุ่ม Flash ที่ดำเนินธุรกิจ Logistic และรับส่งพัสดุ เป็นตัวอย่างหนึ่งของ new S-curve ที่ดำเนินการเพื่อช่วยสร้างให้มีจำนวนคนเข้า PTT station มากขึ้น รวมทั้งเริ่มมี Synergy ร่วมกันให้เห็นในหลายๆด้าน นอกจากนั้นการลงทุนใน Care for car, Orbit Digital เป็นการลงทุนที่พัฒนา Platform Application ต่าง ๆ มาต่อยอดธุรกิจในปัจจุบัน
8. ขอภาพ การบริหารจัดการพื้นที่สถานีบริการน้ำมัน ให้เป็น one stop service จะช่วยเพิ่มรายได้ให้ OR ระยะยาวได้ย่างไร ในสัดส่วนเท่าไหร่
OR จะนำเสนอ products & services mix ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้สามารถเลือกที่จะเข้ามาใช้บริการใน PTT station และชาร์จรถไปด้วย
สำหรับการเพิ่มรายได้นั้นปัจจุบันเรามี Model รายได้ในส่วนของพื้นที่เช่าในรูปแบบ GP sharing
9. การขยายสาขาร้าน Cafe Amazon หลายร้อยสาขาในแต่ละปี ในด้านวัตถุดิบกาแฟมีเพียงพอแค่ไหน
OR ใช้วัตถุดิบจากเกษตรที่ปลูกกาแฟในประเทศไทย 100% และเชื่อว่าจากปริมาณการผลิตเมล็ดกาแฟในประเทศต่อปี เทียบกับความต้องการกาแฟ สำหรับร้า Cafe Amazon ของเรานั้น ปริมาณเมล็ดกาแฟจากแหล่งในประเทศไทยจะสามารถรองรับได้อีกในระยะกลางที่ 3-5 ปี ข้างหน้า
10. รบกวนอัพเดตแผนการใช้เงินจาก IPO และแผนดำเนินการ M&A ไม่ทราบว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง และสามารถเห็นการประกาศในปีนี้หรือไม่
OR ให้ความสำคัญกับ Non-oil ที่มีอัตรา Margin สูง โดย OR ได้ตั้ง CAPEX plan 5 ปี จำนวน 74,600 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นส่วนของธุรกิจน้ำมัน 34.6%, ธุรกิจ Non-oil 28.6%, ธุรกิจต่างประเทศ 15% และธุรกิจอื่น (New S-curve) 15% หาก OR สามารถลงทุนได้ตามแผน 5 ปี นี้สัดส่วนของ EBITDA ของ OR จะเปลี่ยนเป็น ธุรกิจน้ำมันประมาณ 50 – 52%, ธุรกิจ Non-oil ประมาณ 30 – 33%, ธุรกิจต่างประเทศประมาณ 13-15% และธุรกิจอื่น (New S-curve) ประมาณ 5%
สำหรับแผนการ M&A หรือการลงทุนในปีนี้ OR และอยู่ระหว่างการหารือซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้
11. ทีมบริหารมีแผนจะเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจค้าปลีกทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างไร
สำหรับการร่วมทุนในส่วนของธุรกิจ Non-oil ในประเทศเรามีหารือและแผนการเข้าร่วมลงทุนโดยส่วนใหญ่จะเป็น F&B สำหรับการร่วมทุนในต่างประเทศนั้นก็มีทั้ง F&B และ Non-F&B