ข้อมูลสำคัญทางธุรกิจ
ข้อมูลสำคัญทางธุรกิจ

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เป็นบริษัทแกนนำ (Flagship) ของกลุ่ม ปตท. มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตร่วมกับสังคมชุมชน (People) สิ่งแวดล้อม (Planet) ควบคู่ไปกับผลการดำเนินงานที่ดี (Performance) ด้วยวิสัยทัศน์ที่ว่า

เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน

OR จะใช้ศักยภาพที่มีอยู่ทั้ง Physical Platform และ Digital Platform ร่วมกับความเชี่ยวชาญด้านการตลาด การบริหารงานอย่างมืออาชีพและความเชื่อถือของคู่ค้าและลูกค้าที่มีต่อธุรกิจของ OR เพื่อส่งต่อโอกาสให้กับผู้ประกอบการในทุกขนาดได้เติบโตไปพร้อมกันกับ OR ทั้งนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว OR ได้ดำเนินธุรกิจตามพันธกิจ 4 ด้าน ได้แก่ การสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจพลังงานแบบผสมผสานเพื่อการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ (Seamless Mobility) การสร้างทางเลือกที่ครบวงจรเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ (All Lifestyles) การขยายธุรกิจสร้างการยอมรับในตลาดโลก (Global Market) และการสร้างธุรกิจที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการยกระดับสู่นวัตกรรมในแบบฉบับ OR (OR Innovation)

ภาพรวมธุกิจ

กลุ่มธุรกิจ Mobility

การสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจพลังงานแบบผสมผสานเพื่อการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ (Seamless Mobility)

OR มุ่งมั่นสร้างให้เกิดการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ (Seamless Mobility) สอดรับแนวโน้มการใช้พลังงานในอนาคต โดยขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจจากระบบนิเวศธุรกิจน้ำมัน (Oil Ecosystem) ไปสู่ระบบนิเวศธุรกิจพลังงานแบบผสมผสาน (Energy Solution Ecosystem)

OR เป็นผู้ค้าปลีกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมชั้นนำในประเทศไทย และมีเป้าหมายให้ PTT Station เป็น Physical Platform สำหรับการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Mobility และ Lifestyle โดยปัจจุบันมี PTT Station ที่ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ภายใต้แบรนด์ EV Station PluZ และมีแผนจะขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมเส้นทางหลักทั่วประเทศ นอกจากนี้อีกหนึ่งพลังงานสะอาดที่ทาง OR ได้นำมาทดลองใช้ใน PTT Station คือ พลังงานแสงอาทิตย์หรือ Solar Rooftop เพื่อตอบรับการใช้พลังงานสะอาด อีกทั้งยังสามารถช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานจากการลงทุน Infrastructure และการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยสนับสนุนขับเคลื่อนสังคมสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต

ข้อมูลล่าสุด ณ กันยายน 2567

สถานี
สถานี

1,802 DC connectors

สาขา
สถานี

สำหรับธุรกิจกลุ่มธุรกิจตลาดพาณิชย์ OR จำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและผลิตณัณฑ์อื่น ๆ และยังเป็นผู้นำในตลาดพาณิชย์สำหรับการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน น้ำมันเตาสำหรับเรือขนส่งและภาคอุตสาหกรรม และก๊าซปิโตรเลียมเหลวในประเทศไทย โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายให้กับลูกค้าในตลาดพาณิชย์ ซึ่งมีความไว้วางใจต่อสินค้าและบริการของ OR มาอย่างยาวนาน พร้อมทั้งให้คำแนะนำในทางเลือกของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และให้บริการอย่างครบวงจร (Energy Solution Provider) อีกทั้งยังดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจรภายใต้เครื่องหมายการค้า PTT Lubricants โดยจำหน่ายผลิตภัณฑ์หล่อลื่นสำหรับยานยนต์ กลุ่มเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล กลุ่มรถจักรยานยนต์ กลุ่มรถบรรทุกขนส่ง กลุ่มเรือประมงและเรือเดินสมุทร รวมถึงผลิตภัณฑ์หล่อลื่นสำหรับเครื่องจักรอุตสาหกรรมและกระบวนการผลิต และผลิตภัณฑ์หล่อลื่นสำหรับเครื่องจักรกล การเกษตร รวมถึงดำเนินธุรกิจศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto ซึ่งให้บริการซ่อมบำรุงรักษาตามระยะทาง และให้บริการเปลี่ยนอะไหล่ยนต์และผลิตภัณฑ์หล่อลื่น PTT Lubricants นอกจากนี้ OR ได้ติดตั้ง Solar Rooftop ภายนอก PTT Station และสร้างธุรกิจใหม่ให้บริการแก่ลูกค้าตลาดพาณิชย์ โดยจำหน่ายอุปกรณ์พร้อมการบริการติดตั้งการบำรุงรักษา และการจำหน่ายไฟฟ้า ช่วยลดปัญหาก๊าซเรือนกระจก และลดต้นทุนค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้ประกอบการอีกด้วย

ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจของ OR ได้รับการสนับสนุนจากการมีเครือข่ายคลังเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว คลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน และคลังเก็บผลิตภัณฑ์อื่น ๆ โดยคลังเก็บผลิตภัณฑ์เหล่านี้เชื่อมต่อกับเครือข่ายการจัดเก็บและการกระจายผลิตภัณฑท์ที่ครอบคลุททั้งทางท่อขนส่งน้ำมัน ทางเรือ ทางรถ และทางรถไฟทั่วถึงทุกภูมิภาค ทำให้ OR สามารถบริหารจัดการสายโซ่อุปทาน (Supply Chain Optimization) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ลูกค้าและผู้บริโภคของ OR มั่นใจได้ว่า OR สามารถรองรับทุกความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคที่หลากหลาย ได้อย่างทั่วถึง สะดวก ครบครัน สนับสนุนการดำเนินธุรกิจพลังงานแบบผสมผสานเพื่อการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ (Seamless Mobility)

กลุ่มธุรกิจ Lifestyles

การสร้างทางเลือกที่ครบวงจรเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ (All Lifestyles)

OR มุ่งมั่นตอบสนองการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในทุกรูปแบบ (All Lifestyles) ด้วยการขยายขอบเขตธุรกิจเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวันของทุกคน ครอบคลุมทั้งระบบนิเวศธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B Ecosystem) และการสร้างระบบนิเวศธุรกิจที่ครบวงจร (One-Stop Solution Ecosystem) เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

OR มุ่งมั่นตอบสนองการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในทุกรูปแบบ (All Lifestyles) ด้วยการขยายขอบเขตธุรกิจเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวันของทุกคน ครอบคลุมทั้งระบบนิเวศธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B Ecosystem) และการสร้างระบบนิเวศธุรกิจที่ครบวงจร (One-Stop Solution Ecosystem) เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ข้อมูลล่าสุด ณ กันยายน 2567

สาขา
สาขา
สาขา
1) ธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม

Cafe Amazon, แบรนด์กาแฟชั้นนำระดับโลก OR ดำเนินธุรกิจกาแฟที่ยึดหลักการสร้างสรรค์คุณค่า เติบโตควบคู่ไปกับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมห่วงโซ่ทางธุรกิจตั้งแต่ การส่งเสริมเกษตรกรไทยให้เพาะปลูกกาแฟพันธุ์ดี คัดเลือกเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ ผ่านกรรมวิธีการคั่วในโรงคั่วกาแฟขนาดใหญ่และทันสมัย และ จัดส่งให้ร้าน Cafe Amazon ทั่วประเทศ

แบรนด์ Cafe Amazon มีจุดยืนทางการตลาดที่ชัดเจน คือความเป็น “Green Oasis” เสมือนจุดแวะพักเติมพลังชีวิตให้กับทุกการเดินทางของผู้บริโภค โดยมุ่งเน้น 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่

  • บรรยากาศความร่มรื่นภายในร้านและต้นไม้สีเขียว
  • เป็นแบรนด์ของคนไทยที่มีรสชาติกาแฟถูกใจคนไทยเป็นอย่างดี
  • ทำเลให้บริการที่สะดวก (Location) มีเครือข่ายสาขาทั่วประเทศทั้งภายในและนอก PTT Station รวมถึงในห้างสรรพสินค้าคอมมูนิตี้มอลล์ หน่วยราชการ องค์กร สถาบันการศึกษา สถานีรถไฟใต้ดิน MRT รถไฟฟ้า BTS รวมถึงบริเวณพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ
  • ราคาที่สมเหตุผล (Value for money) ผู้บริโภคเข้าถึงได้

อีกทั้ง เพื่อตอบสนอง Lifestyle ของผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านมากขึ้นและเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการเข้าถึงสินค้าและการบริการ Cafe Amazon ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพิ่มความหลากหลายของเครื่องดื่ม อาทิ ชา ช็อคโกแลต น้ำผลไม้ กาแฟ Drip กาแฟ Cold Brew อาหารว่างและเบเกอรี่รสชาติอร่อย รวมถึงการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต (Modern Trade) และผ่าน Mobile แอปพลิเคชัน ของ Cafe Amazon และให้บริการจัดส่ง (Delivery)

ในปี 2564 OR ได้เปิดศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่บนพื้นที่ 24,000 ตารางเมตร โดยใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ในการปฏิบัติงานที่สามารถจัดการ สินค้าได้กว่า 22 ล้านกล่องต่อปี รวมถึงสร้างโรงงานผลิตผงผสมเครื่องดื่มได้แก่ ชาเขียว ช็อคโกแลต และโรงงานผลิตเบเกอรี่คุณภาพสูงสูตรเฉพาะ ของ Cafe Amazon เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังแสวงหาโอกาสเข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตร สร้างการเติบโตทางธุรกิจร่วมกันและเพิ่มมูลค่าตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานอย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ ร้านเครื่องดื่มประเภทชาไข่มุก Pearly Tea แล้ว OR ยังได้เข้าลงทุนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B Portfolio) อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความหลากหลายเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค โดยในปี 2564 OR ได้เข้าลงทุนในหลายบริษัท ได้แก่

  • บริษัท พีเบอร์รี่ ไทย จำกัด ประกอบธุรกิจกาแฟอย่างครบวงจร รวมถึงร้านกาแฟ Specialty ภายใต้แบรนด์ “Pacamara Coffee Roasters”
  • บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) ร้านอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋”
  • บริษัท คามุ คามุ จำกัด ร้านชานมไข่มุกและเครื่องดื่ม Lifestyle ใหม่ ๆภายใต้แบรนด์ “คามุ ที”
2. ธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ

ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ OR ได้ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ภายใต้แบรนด์ Jiffy ที่ OR เป็นเจ้าของ และแบรนด์ 7-Eleven ตามสัญญาความร่วมมือระหว่าง OR และ ซีพีออลล์ โดยจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าต่าง ๆ สร้างความสะดวกและตอบสนอง ความต้องการของผู้บริโภคที่มาใช้บริการใน PTT Station

ธุรกิจด้านสุขภาพและการท่องเที่ยว จากสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งผู้บริโภคให้สำคัญต่อการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น OR ได้เล็งเห็นศักยภาพของการลงทุนในธุรกิจด้านสุขภาพ ความเป็นอยู่และการท่องเที่ยว (Health, Wellness, and Tourism) จึงมีแผนจะร่วมมือ กับพันธมิตรเพื่อให้ OR เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ทุกเพศ ทุกวัย

Global Market

การขยายธุรกิจสร้างการยอมรับในตลาดโลก (Global Market)

OR มุ่งมั่นขยายฐานธุรกิจเพื่อสร้างความสำเร็จและการยอมรับในตลาดโลก (Global Market) โดย OR มีรายได้จากยอดขายของบริษัทย่อยของ OR ซึ่งจัดตั้งในต่างประเทศ โดยบริษัทย่อยดังกล่าวดำเนินการทั้งกลุ่มธุรกิจ Mobility และกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่เสนอขายผ่านกลุ่มธุรกิจต่างประเทศของ OR ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมประเภทต่าง ๆ เช่น น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน น้ำมันเตา ผลิตภัณฑ์หล่อลื่น และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่น ๆ เป็นต้น รวมถึงการดูแลสังคมชุมชนในประเทศที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกัน (Inclusive Growth)

การขยายธุรกิจในต่างประเทศเป็นหนึ่งกลไกสำคัญสำหรับ การเติบโตในอนาคต ดังนั้น OR ยังคงมุ่งขยายธุรกิจ โดยพิจารณาพื้นที่ที่มีศักยภาพทั้งในเชิงจำนวนและคุณภาพประชากร แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงความใกล้เคียงทางสังคมและวัฒนธรรมเมื่อเปรียบเทียบกับ ประเทศไทย OR กำหนดกลยุทธ์สำหรับการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นรูปแบบการเติบโตด้วยการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ และร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ (Asset-Light Business Model) ทั้งการแสวงหาโอกาสธุรกิจใหม่ในพื้นที่เดิมที่ OR มีฐานในการดำเนินธุรกิจและมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่และพื้นที่ใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อให้เกิดการเติบโตไปพร้อมกับคู่ค้าชุมชน พันธมิตร และผู้ประกอบการในต่างประเทศโดยเริ่มจากการพิจารณาว่าแบรนด์ใดเหมาะสมกับความต้องการและความนิยมของตลาดแห่งใหม่แต่ละแห่ง หลังจากนั้น OR จะส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและเริ่มดำเนินธุรกิจ Lifestyle ภายใต้แบรนด์ของ OR ที่เหมาะสมกับการทำตลาดในประเทศนั้น ๆ (เช่น Cafe Amazon) เพื่อส่งเสริมการรับรู้แบรนด์ เมื่อแบรนด์ของ OR มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและมีฐานลูกค้าที่มั่นคงแล้ว OR จะดำเนินการขยายเครือข่าย PTT Station และ/หรือ Outlets ปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ ในแต่ละตลาดแล้วแต่ความเหมาะสม โดย OR เข้าสู่ตลาดดังกล่าวในฐานะผู้นำด้านอุตสาหกรรมที่มีประสบการณ์จากประเทศไทยที่มุ่งเน้นการแบ่งปันและขยายความสำเร็จไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคและทั่วโลก ทั้งนี้ OR ตระหนักถึงความซับซ้อนของการดำเนินธุรกิจในแต่ละประเทศ จึงมีการศึกษารูปแบบการดำเนินธุรกิจในแต่ละประเทศ เพื่อนำกลยุทธ์มาปรับใช้ในการประกอบธุรกิจในแต่ละประเทศในบริบทที่แตกต่างกัน (Localization).

ปัจจุบัน OR ดำเนินธุรกิจในตลาดหลัก เช่น ฟิลิปปินส์ กัมพูชา และ สปป. ลาว มาแล้วกว่า 10 ปี และได้เริ่มเข้าสู่ประเทศจีนรวมถึงเวียดนาม ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงอีกด้วย

ข้อมูลล่าสุด ณ กันยายน 2567

กลุ่มธุรกิจ OR Innovation

การสร้างธุรกิจใหม่ (New S-Curve) และ ธุรกิจที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการยกระดับสู่นวัตกรรมในแบบฉบับ OR (OR Innovation)

OR มุ่งเน้นการแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยใช้ศักยภาพที่ OR มีอยู่ ร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ ในการร่วมกันแก้ปัญหาเพื่อสร้างตลาดใหม่และธุรกิจใหม่ เพื่อยกระดับสู่นวัตกรรมในแบบฉบับ OR (OR Innovation) ซึ่งจะทำให้ OR เติบโตไปพร้อมกับผู้คนและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

ข้อมูลล่าสุด ณ กันยายน 2567

เพื่อให้การขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจของ OR สำเร็จบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รองรับการดำเนินธุรกิจที่สามารถตอบสนองต่อการพัฒนาอย่างรวดเร็วทางด้านเทคโนโลยี สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และความเหลื่อมล้ำที่สูงมากขึ้น OR จึงดำเนินการปรับรูปแบบการดำเนินงาน ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจและทิศทางกลยุทธ์ โดยคำนึงถึงการมุ่งเน้นลูกค้าและผู้บริโภค การเพิ่มความเร็วและการเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพการทำงาน การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เปลี่ยนแปลงการดำเนินงานโดยมุ่งเน้น การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูล การบรูณาการเชื่อมโยงการทำงานระหว่างหน่วยธุรกิจต่าง ๆ และพันธมิตรภายนอกองค์กร OR ได้นำเทคโนโลยีและระบบสารสนเทศมาใช้เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจใน 4 ด้าน ได้แก่

  1. การเสริมสร้าง Digital Infrastructure เพื่อทำให้ OR มีโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีที่ดี
  2. การพัฒนา Digital Platform เพื่อสนับสนุนการให้บริการในรูปแบบ Offline to Online (O2O) โดยการผสมผสานธุรกิจจากออนไลน์ไปสู่ออฟไลน์ เช่น การพัฒนา all-in-one application ที่จะสามารถตอบโจทย์และอำนวยความสะดวกในทุกช่วงชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทั้งในในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Mobility และ Lifestyle
  3. การใช้ Digital Technology เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินเนินธุรกิจ อาทิ การใช้ Analytic Model ในการทำการตลาดเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing) และสร้างแคมเปญการตลาดที่ตรงจุด โดนใจลูกค้ามากขึ้น
  4. การบูรณาการและใช้ Data เป็นฐานในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ ให้กับ OR

นอกจากนี้ OR ยังเร่งสร้างนวัตกรรม โดยร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพในหลายธุรกิจ เช่น การลงทุนใน Flash Express ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านขนส่ง การร่วมลงทุนกับ “Bluebik” จัดตั้ง บริษัท ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด (ORBIT Digital) เพื่อเร่งให้การพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงการร่วมมือกับ กองทุน 500 TukTuks จัดตั้งกองทุน ORZON Ventures เพื่อลงทุนใน Startup ระยะเริ่มต้นกิจการ (Early-Stage) ซึ่งนอกจากเป็นการโอกาสในการสร้าง New S-Curve ในธุรกิจใหม่ ๆ ให้แก่ OR แล้วนั้น ยังเป็นประตูแห่งโอกาสให้ Start-up เติบโตไปพร้อมกับธุรกิจของ OR ทั้งในและต่างประเทศด้วย